"วิษณุ เครืองาม"ปัดตอบสถานะITV ไม่มีความเห็นกรณีพิธาโอนหุ้น

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า ข้อผิดพลาดเรียกร้องความเสียหาย ระหว่าง ไอทีวี และ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. ว่า ตนไม่ทราบ ต้องถาม สปน. เพราะผลัดกันเเพ้ชนะมาหลายครั้ง แต่ยังคงมีคดีอื่นที่ค้างอยู่ทั้งในศาลปกครอง และศาลอาญา 

ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ว่าหากไอทีวี ชนะก็จะกลับมาเป็นสถานะสื่อได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนหากไอทีวี มีสถานะฟื้นกลับมาเป็นสื่อจะส่งผลต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า  เป็นเรื่องที่ไม่ควรตอบควรจะพิจารณาเองได้

นายวิษณุยังปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับ ว่า โอนหุ้นให้กับบุคคลอื่นแล้ว

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่ ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล เร่งรัดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ดำเนินการคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112  ว่า ไม่เเน่ใจว่าศาลได้ประกาศวันเวลาไว้หรือไม่  และการร้องศาลในลักษณะนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ทั้งระบบ 

ส่วนที่ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกลไม่ได้สิทธิในการใช้ทนายความนั้น นายวิษณุระบุว่า การจะอ้างว่า ไม่มีทนายความเป็นไปไม่ได้ เพราะจะต้องมีทนายความทุกคดี แต่ในรายละเอียดตนไม่ทราบ

ส่วนกรณี ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับพ.ร.บ.พรรคการเมืองที่ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติหัวหน้าพรรคการเมือง แต่ ข้อบังคับพรรคระบุไว้ ศาลจะพิจารณาพ.ร.บ. พรรคการเมือง หรือข้อบังคับพรรค  นายวิษณุระบุว่า ขอไม่ตอบ แต่พ.ร.บ.พรรคการเมืองไม่ได้เขียนไว้ ตามมาตรา 56 ระบุว่า หัวหน้าพรรคการเมือง มีหน้าที่ออกใบรับรองให้กับสมาชิก ซึ่งหัวหน้าพรรคมีลักษณะต้องห้ามเยอะ แต่ตามมาตรา 98(3) ซึ่งเป็นเพียงวงเล็บเดียวที่เกี่ยวข้องกับหุ้นสื่อ และเป็นวงเล็บเดียวที่ "ไม่ถูกนำไปใช้กับหัวหน้าพรรค" หมายความว่า หัวหน้าพรรคไม่มีข้อห้ามในการถือหุ้นสื่อ ซึ่งหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นกรรมการบริหาร ถือหุ้นสื่อได้ แต่หากเป็นผู้สมัครส.ส. ถือหุ้นสื่อไม่ได้และว่าที่นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชี ถือหุ้นสื่อไม่ได้ และการไปเขียนข้อบังคับพรรคลักษณะนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มาตรฐานทุกพรรคการเมืองแสดงว่า หัวหน้าพรรคสามารถถือหุ้นสื่อได้ แต่พรรคก้าวไกล เขียนข้อบังคับพรรคให้เข้มข้นกว่ารัฐธรรมนูญ ถือเป็นเสรีภาพ และอาจจะต้องรับ ผลกระทบที่อาจจะตามมาใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็เป็นแบบนั้นแหละ 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องนี้เป็นเพราะพรรคการเมืองไปเขียนเอง นายวิษณุกล่าวว่า ก็ ใช่  พร้อมปฏิเสธตอบกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปร้องถึงหัวหน้าพรรคอื่นๆด้วย โดยระบุว่าตนไม่ทราบ ไม่ได้ติดตาม ติดตามแต่ข่าว ณเดช ญาญ่า