'วันชัย'มั่นใจสว.เกิน60เสียงโหวตเศรษฐานายกฯ ลงมติเลือกม้วนเดียวจบ
วันชัย สอนศิริ เผยโหวตเศรษฐาเป็นนายกฯ มีสว.หนุนเกิน60เสียงมั่นใจลงมติเลือกม้วนเดียวจบเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ
ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภากล่าวถึงกรณีที่มีการประเมินว่า สว.จะไม่โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ว่า ตนพูดได้เลยว่าขณะนี้เสียงที่ต้องการเกิน60 เสียงไปมากแล้ว และเชื่อว่าสว.ส่วนใหญ่ ทุกคนอยากให้ประเทศเดินไปและไม่มีใครคิดที่จะขวางกั้นและ เป็นอุปสรรคต่อการโหวตครั้งนี้ ฉะนั้นเพื่อไทยเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็เชื่อว่าสว. จะโหวตให้ อาจจะมีเพื่อนสว.บางคนแสดงความเห็นอย่างนู้นอย่างนี้ นั่นเป็นแนวทางประชาธิปไตยแต่ส่วนใหญ่ทั้งหมดพูดแบบเสียงดังฟังชัดว่า จะโหวตให้กับนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้แน่นอน และทุกคนมีความเห็นสอดคล้องต้องกัน ไม่ควรให้บ้านเมืองสะดุด หยุดชะงักในเวลานี้ ส่วนใครมีปัญหาอะไรก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องทำงานตรวจสอบต่อไป แต่เรามีหน้าที่โหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเสียงส่วนใหญ่เสนอใครมาสว.ก็จะสนับสนุนให้กับคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนที่มี สว. บางส่วนที่ไม่พอใจคุณสมบัติของนายเศรษฐา มองว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทั้งในสว.และสส. ซึ่งจะมีคนอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อนายเศรษฐา แต่ยืนยันว่าเสียงส่วนใหญ่ของสว.ในวันโหวตให้นายเศรษฐา ต้องการเพียง 60 เสียงของเดิมมีอยู่แล้ว 13 เสียง ต้งการอีกเพียง 50 กว่าเสียง ซึ่งตนถือว่าง่ายมากและเชื่อว่ามีสว.จะโหวตให้เป็นร้อย ไม่มีอะไรที่ทำให้ประชาชนวิตกกังวลในประเด็นนี้เพราะบ้านเมืองต้องเดินต่อไปประเทศต้องเดินต่อไปจะหยุดชะงักแค่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นปัญหา
การโหวตผ่านไปโดยไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่สมาชิกแสดงความเห็นออกมาถือว่าเป็นการแสดงความเห็นของแต่ละคนซึ่งก็ปล่อยให้เป็นไปตามหลักการ คน 250 คนจะให้เห็นตรงกันคงเป็นไปไม่ได้ แต่เสียงส่วนใหญ่จะโหวตให้และจะสนับสนุนในระบอบประชาธิปไตยสนับสนุนเสียงข้างมาก
ส่วนเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐาก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ซึ่งเชื่อว่าแม้มีการตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในวันพรุ่งนี้ และเชื่อว่ามีหลายคนจะนำมาเป็นเหตุในการอภิปราย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งพวกเราทุกคนคุยกันว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของสมาชิก 750 คน การโหวตนายกรัฐมนตรีอยู่ที่การอ้างของบุคคลภายนอกหรือการตัดสินใจของสมาชิก 750 คนซึ่งเรื่องเหล่านี้สมาชิกทุกคนตกผลึกหมดแล้วเพราะข้อกล่าวอ้างสามารถกล่าวอ้างได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นใครเสนอขึ้นมาก็จะมีข้อกล่าวหาอีก สมาชิกรัฐสภา จึงเห็นว่าตราบใดที่ศาลไม่มีคำพิพากษาหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องมีวินิจฉัยคุณสมบัติก็ถือว่าคนคนนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน และเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่จะสนับสนุนแนวทางนี้เพราะหัวใจสำคัญที่สุดคือ ต้องการให้บ้านเมืองเดินและต้องการให้เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนคนไทยและไม่ต้องการให้มาสะดุดอยู่ที่สมาชิกวุฒิสภาไม่เช่นนั้นคนจะกล่าวหาว่าสมาชิกวุฒิสภาเป็นอุปสรรค เป็นจระเข้ขวางคลอง เป็นคนที่ทำให้บ้านเมืองไม่ได้เดินต่อไปเพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราต้องการสลัดออก และถ้าเห็นว่าสิ่งใดเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ต้องฝ่ายการเมือง และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็จะต้องเป็นคนจัดการ
พร้อมผลักดันให้การโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ให้สำเร็จเสร็จสิ้นให้ได้ และมั่นใจว่าจะจบแน่นอน จบเร็วด้วยเพราะการอภิปราย อาจจะมีการอภิปรายไม่มากไม่เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาและเชื่อว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือ ในการให้มีนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว