posttoday

'ชัยชนะ'ลั่นไม่ใช่งูเห่าปชป.น้อมรับหากถูกขับพ้นพรรคปมโหวตนายกฯ

23 สิงหาคม 2566

"ชัยชนะ" เผยเหตุโหวตสวนมติพรรค ปชป. ให้ 'เศรษฐา' นั่งนายกฯ เป็นเสียงส่วนใหญ่ ปัดดีลลับร่วมรัฐบาล ไม่มีตีเช็คเปล่า เป็นการตัดสินใจหวังประเทศเดินหน้าได้ ลั่นไม่ใช่งูเห่า ไม่ใช่เสียงส่วนน้อยของพรรค น้อมรับหากถูกโทษขับออก

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของ 16 สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการเทเสียงโหวตในช่วงสุดท้าย ว่า ไม่ใช่เรื่องตกขบวน หรือร่วมขบวน แต่ในการประชุมพรรคเราได้มีการหารือกันมีความเห็นทั้ง3ความเห็นทั้ง เห็นชอบ ไม่เห็นชอบและงดออกเสียง ซึ่งในวันนั้นได้สรุปว่างดออกเสียง และในที่ประชุมรัฐสภาเราได้นั่งฟังคำอภิปรายของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เรื่องข้อสงสัยของนายเศรษฐาที่เป็นข่าวอยู่ในสังคมเมื่อฟังแล้วก็ คิดว่าไม่มีน้ำหนักอะไรที่จะเป็นปัญหาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และเมื่อครั้งลงพื้นที่พบปะประชาชน ได้สอบถามประชาชนถึงความคิดเห็นในการโหวตนายกรัฐมนตรี ประชาชนก็อยากหาทางออกให้กับประเทศ ถ้าเป็นนายเศรษฐา เป็นบุคคลที่ไม่มีความคิดล้มล้างสถาบัน ฯ หรือแก้ไขมาตรา112  ก็ต้องโหวตให้ และจุดยืนของพรรคเพื่อไทยได้มีการแถลงชัดเจนว่าไม่แก้ไขมาตรา 112 และจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นระบบประชาธิปไตย 100% และที่สำคัญจะมีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน 
 

"ผมคิดว่าวันนี้การเลืองตั้งล่วงเลยมา90วันยังไม่มีนายกฯ ยังไม่มีรัฐบาล ฉะนั้น จำเป็นที่สุดประเทศต้องหาทางออกให้ได้ถ้าประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ คนที่เจ็บช้ำมากที่สุดคือประชาชน วันนี้งบประมาณปี 2567 ยังไม่ได้ประชุม งบประมาณ 2568 ก็กำลังจะมาถึง เรื่อง เศรษฐกิจปัญหาก็ยังมีอยู่ รัฐบาลรักษาการ ก็มีกรอบอำนาจที่จำกัดผมและเพื่อนสส.จริงๆแล้ว16คนที่โหวตก็หารือกัน หลายคนก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ แต่โหวตไปแล้วเปลี่ยนไม่ทัน จึงตัดสินใจชั่วโมงสุดท้ายว่าจะโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีที่สำคัญในการโหวตครั้งนี้ไม่ได้ยืนยันว่าจะร่วมรัฐบาล เราจะพร้อมทำงานทั้ง 2 หน้าที่ ทั้งร่วมรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้นไม่ใช่ว่า การโหวตครั้งนี้จะเป็นการยืนยันว่าเมื่อโหวตแล้ว ได้ขึ้นขบวนรถไฟเป็นคนสุดท้าย นี่เป็นความคิดที่เราคิดอยู่" นายชัยชนะกล่าว 

นายชัยชนะ ยังกล่าวด้วยว่า ต้องกราบขออภัยแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความคาดหวังว่าจะต้องไม่โหวตหรืองดออกเสียง พร้อมยืนยันก่อนโหวตไม่ได้มีการดีล กับพรรคเพื่อไทย เช็คโทรศัพท์จนได้เลย เรานั่งอยู่ห้องพักเรา

ส่วนที่พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า มติพรรคโหวตได้แค่งดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบ นายชัยชนะกล่าวว่า พล.ต.ต. สุรินทร์ได้อยู่ในที่ประชุมพรรคหรือไม่ มีความเห็นหลายคน หาเปิดบันทึกการประชุมดูก่อน มติพรรคออกแล้วจริงแต่ในวันนั้นความเห็นส่วนใหญ่มีความเห็นแบบนี้ ถ้าจะเรียกประชุมใหม่ก็ไม่ทันจึงหารือกันในกลุ่มเพื่อน ตนทราบดีว่าการที่เราปฏิบัติผิดต่อมติพรรคอะไรจะเกิดขึ้น เราก็พร้อมน้อมรับกับการตัดสินกับการตรวจสอบ ถ้าคณะกรรมการสอบสวนมาเราก็พร้อมน้อมรับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะถือว่า สิ่งที่เราทำมี 2 ทางให้เลือก 

ส่วนถ้าโทษแรงถึงขั้นขับออกเลย ตนยินดีที่จะให้คณะกรรมการตรวจสอบและยินดีที่จะแสดงความ บริสุทธิ์ ในการบอกเหตุผลว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้ว คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา จะมีผลอย่างไรเราก็ต้องรับให้ได้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสวนมติพรรค แต่ในสิ่งที่ตนและเพื่อนทำเราน้อมรับคำตัดสินที่เกิดขึ้นในอนาคต แต่เราคิดว่า สิ่งที่เราทำเราหาทางออกให้กับประเทศ และเมื่อวานเห็นว่าทั้งสว.และสส.โหวตเป็นเสียงส่วนใหญ่ ฉะนั้นตนคิดแค่ว่าประเทศต้องเดินหน้าและหาทางออกให้ได้

นายชัยชนะ ยังกล่าวอีกว่าก่อนโหวตไม่ได้มีการพูดคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายชวน หลีกภัยสส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเวลากระชั้นชิด เราเองมาคุยกันก็เกือบจะบ่าย 3 แล้ว 

พร้อมย้ำว่าเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ของใคร เพราะไม่ได้บอกว่าการโหวตเมื่อวานจะได้ร่วมรัฐบาล เราพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เราทำหน้าที่ให้เต็มที่ แต่เมื่อวานเห็นว่าต้องหาทางออกให้ประเทศแล้วจริงๆ 

"ที่สำคัญขอความร่วมมือสื่อที่ไปเขียนว่างูเห่าตนไม่ใช่งูเห่า ต้องยอมรับว่าการที่เป็นงูเห่าต้องจำนวนน้อย ผมไปเพราะเสียงข้างมาก เราคุยกันในพรรค สส. ส่วนใหญ่ในพรรคเขาเห็นเป็นอย่างนี้ เราถกร่วมกันแล้ว เราไม่มีการสร้างงูเห่า แต่นี่เป็นเสียงส่วนใหญ่ของพรรค " นายชัยชนะกล่าว 

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ามีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวยืนยันว่าวันนี้ในการโหวต ไม่ใช่การร่วมรัฐบาล แม้โหวตเมื่อวานนี้เราก็พร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน
แต่เรามองทางออกของประเทศ ส่วนใครจะมองว่าเราโหวตเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือเปล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดได้

"ความจริงก็คือความจริง ความจริงอยู่ในตัวผม ผมคิดยังไงและทำยังไง ก็พูดความจริงผมคิดว่าผมเป็นคนนึงที่ไม่เคยหลบสื่อมวลชน ตนพร้อมให้ข้อมูลตลอด เพราะผมไม่มีอะไรมีแต่ข้อเท็จจริง ผมไม่เคยให้ร้ายกับพรรคนี้ไม่เคยทำให้พรรคเสียหาย ผมยึดมั่นในพรรคตลอดและไม่เคยให้ร้ายใคร" นายชัยชนะกล่าว

นายชัยชนะกล่าวยืนยันว่า การโหวตเมื่อวานนี้ ไม่ใช่การตีเช็คเปล่า นี่เป็นความคิดแนวคิดเวลานั้น มองเห็นว่าประเทศต้องหาทางออก จะมองว่าเป็นการตีเช็คเปล่าไม่ได้ 

ถ้าหากฝั่งพรรคเพื่อไทยเชิญร่วมทำงาน ถือเป็นเรื่องในอนาคต ที่ยังไม่เกิดขึ้น วันนี้เราไม่มีรัฐบาล เราไปดูกัมพูชา เลือกตั้งหลังเราจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อนเรา ประเทศเรายังไม่มีรัฐบาลเลยวันนี้ถามว่า ในการใช้เงินงบประมาณดูแลประชาชน สมมุติหากประเทศเกิดวิกฤตวันนี้เอาเงินที่ไหนมาใช้ และต้องยอมรับว่าการที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีหรือมีรัฐบาลที่ทำงานได้จริงจัง การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆทำไม่ได้ และสิ่งที่เรานำเสนอนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง ก็อยากฝากรัฐบาลใหม่ในการแก้ไขปัญหา
นำนโยบายของเราไปใช้ให้เกิดขึ้นจริงในวันข้างหน้า 

ทั้งนี้ หากนับรวมเสียง สว. ที่โหวตเห็นชอบ นายเศรษฐา ก็เสียงพออยู่แล้ว นายชัยชนะ กล่าวว่า ก็เพราะเสียงพอ เราก็เลยโหวตให้ด้วย 

ส่วนการตัดสินใจที่จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ก็ต้องกลับไปถามกรรมการบริหารชุดรักษาการที่มีอำนาจเต็มร่วมกับสส.อยู่แล้ว มีมติอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นแต่วันนี้เราจะไปร่วมอย่างไรก็ไม่มีการเทียบเชิญ ส่วนถ้ามีการเทียบเชิญมา ก็ต้องกลับไปถามที่ประชุมใหญ่