'เรวัช'ชี้คดี"กำนันนก"ตำรวจ21นายต้องถูกลงโทษ

พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร กรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการมอนิ่งเนชั่น ออกอากาศทางเนชั่นทีวี ช่อง22ว่า คดีตำรวจถูกยิงเสียชีวิตในบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” กำนันตำบลตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจ21นายซึ่งอยู่ด้วยในคืนเกิดเหตุ ต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยตำรวจและอาญาฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ด้วยสาเหตุสำคัญ2ประการคือไม่จับกุมคนร้ายหลังเกิดเหตุซึ่งหน้า อีกทั้งไม่รักษาสถานที่เกิดเหตุ ตามระเบียบปฎิบัติและหากได้ร่วมในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ตำรวจเจ้าของพื้นที่อย่างน้อย1นายต้องถูกไล่ออก 

"ลักษณะเกิดเหตุเป็นการกระทำความผิดอาญาซึ่งหน้า ตำรวจต้องจับกุมคนร้ายทันที หากจับกุมไม่ได้ก็ต้องแจ้งตำรวจท้องที่และตรึงสถานที่เกิดเหตุต้องไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำลายหลักฐาน กรณีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในคืนเกิดเหตุจึงมีความผิดชัดเจน" พล.ต.ท.เรัช กล่าว 

พล.ต.ท.เรัช ระบุว่า ในอดีตเคยรับราชการเป็นผกก.ทางหลวง2 สังกัดเดียวกับตำรวจผู้เสียชีวิต ดังนั้นหากมองจากสายตาส่วนตัวคิดว่า กำนันนกไม่ได้มีอิทธิพลอะไร แค่เป็นคนมีเงินจากการทำมาหากินแต่กร่างเพราะใช้อำนาจเงิน การสอบสวนต้องทำให้ข้อเท็จจริงปรากฎชัด เพราะผู้ลงมือก่อเหตุคือลูกน้องของกำนันนก และถูกวิสามัญฯในเวลาต่อมา ทั้งที่ไม่ได้มีสาหตุโกรธเคืองผู้ตายมาก่อน คนร้ายตัดสินใจลงมือฆ่าตำรวจต่อหน้าตำรวจด้วยกันเองถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก 

พล.ต.ท.เรวัช ระบุว่า การเป็นข้าราชการตำรวจต้องมีศักดิ์ศรี อย่าไปรับเศษเงินเศษทองใครและไม่จำเป็นต้องไปกินข้าวบ้านใคร สมัยรับราชการตำรวจทางหลวง รถสิบล้อต้องวิ่งซ้ายหมด กำนันนกอยากแสดงพาวเวอร์เชิญตำรวจไปร่วมงานแล้วมีบีบให้ผู้ตายยอมที่จะโยกย้ายตำรวจให้ตามที่ร้องขอ อย่างนี้ไม่ควรเกิด 

พล.ต.ท.เรวัช กล่าว่า การสอบสวนคดีนี้ กำนันนกคงไม่รอดข้อหาทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุส่วนพยายามฆ่าหรือสั่งการจ้างวานฆ่าต้องดูในรายละเอียดในสำนวนการสอบสวน คดีนี้มีทั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลรองผบ.ตร.และพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ตำรวจสอบสวนกลาง ลงไปกำกับดูแลและมอบหมายให้กองปราบปรามรับผิดชอบ ดังนั้น การสอบสวนเชื่อว่าจะได้ความกระจ่างในทุกประเด็น 

ส่วนกำนันนก ต่อจากนี้ไปชีวิตจะอยู่ยากไม่มีความสุข เพราะตำรวจก็มีศักดิ์ศรี เหมือนทหาร คดียิงตำรวจเสียชีวิตไม่มีใครกล้าปกป้อง ดังนั้นการไม่ประกันตัวและอยู่ในคุกจะปลอดภัยกว่าการออกมาและต้องระวังตัวตลอดเวลา