posttoday

'นายกฯเศรษฐา'นัดครม.ถกงบปี67ปรับเพิ่มจากเดิม 1.3แสนล้านบาท

18 กันยายน 2566

นายกฯเศรษฐา ถกครม.ก่อนบินไปประชุมยูเอ็น สำนักงบฯ เสนอกรอบวงเงินงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากกรอบเดิม 1.3 แสนล้านบาทและการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในหลายกระทรวง

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่จะเดินทางพร้อมคณะ ไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78)  ณ นครนิวยอร์ก  สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2566

สำหรับวาระครม. ที่คาดว่าจะเสนอพิจารณา สำนักงบประมาณ จะเสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากกรอบวงเงินงบประมาณเดิม 3.35 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.3 แสนล้านบาท หลังจากผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม 4 หน่วยงานหลักทางการเงินการคลัง เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
 

ทั้งนี้ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 ที่ทบทวนใหม่ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมร่วม 4 หน่วยงานหลักทางการเงินการคลัง ประกอบด้วย สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้


กรอบวงเงินงบประมาณรวม 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 (วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท) จำนวน 295,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.3% ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ จำนวน 2.787 ล้านบาท 

เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 693,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2566 (695,000 ล้านบาท) จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือลดลง 0.3% 

สมมติฐานทางเศรษฐกิจในปี 2567 ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2.7 – 3.7% อัตราเงินเฟ้อ 1.3 – 2.3% 
 
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระบุก่อนหน้านี้ว่า กรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 ที่เพิ่มขึ้น มาจากประมาณการรายได้ที่เพิ่มขึ้น30,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าดอกเบี้ย เงินกู้ที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และประมาณการขาดดุล เพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินการตามนโนบายสำคัญของรัฐบาล และดำรงสัดส่วนทางการคลังต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง

โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังคงเป็นการดำเนินนโยบาย ขาดดุลงบประมาณ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนต่าง ๆ รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

การประชุมครม.วันนี้ยังอาจมีการเสนอวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้ทันก่อนวันสิ้นสุดงบประมาณปี 2566 คือวันที่ 30 กันยายน 2566 รองรับข้าราชการระดับสูงที่กำลังจะเกษียณอายุรายการ เพื่อให้การบริหารงานของหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีสะดุดด้วย