posttoday

“ภูมิธรรม” เผย ไร้ปัญหา ป.ป.ช.ตั้ง 31 อรหันต์ ศึกษาดิจิทัลวอลเล็ต

29 ตุลาคม 2566

ขอยึดวัตถุประสงค์โครงการพิจารณา ไม่ใช่วัตถุประสงค์ตนเป็นที่ตั้ง ยก 9-10 ปี เศรษฐกิจประเทศหลังรัฐประหารล้มลุกคลุกคลาน ต้องการกระตุ้นอย่างแรง มองกู้เงิน 5.6 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่มีปัญหา เหตุรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็เคยใช้พ.ร.ก.กู้เงินเป็นล้านล้านบาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช ลงนามคำสั่ง ตั้ง 31 อรหันต์ คณะกรรมการเพื่อศึกษา และดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า  มองในแง่ดีคณะกรรมการป.ป.ช.พยายามดูให้เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด ซึ่งไม่มีปัญหาและยินดีให้ทางป.ป.ช.ศึกษา และแลกเปลี่ยนกับรัฐบาล พร้อมขอให้เอาวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง  เนื่องจาก 9-10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศล้มลุกคลุกคลาน  หากฟังจากนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกจะทราบว่าประเทศของเราอยู่ในระดับใด 

หากยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อนาคตข้างหน้าของเรานั้นมืดมน พร้อมกับมองว่า หากเศรษฐกิจของเราตกลงมากกว่านี้ก็จะมีปัญหา

ย้อนดูก่อนการรัฐประหารปี 2557 เมืองอุดรธานีเป็นเมืองที่คึกคักมาก ประชาชนจากฝั่งลาวเข้ามาเที่ยว ในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจเติบโต แต่เมื่อมีการรัฐประหาร นักท่องเที่ยวก็ค่อยๆหายไป กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีก็ค่อยๆล้มไปเศรษฐกิจฟุบมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นถ้าปรารถนาจะให้ประเทศเติบโตได้ต้องพัฒนาเศรษฐกิจให้ได้   

ดังนั้น วัตถุประสงค์การกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นกระดุมเม็ดแรก ที่จะทำให้GDP ของประเทศเติบโต ก้าวพ้นหลุมดำของปัญหา  พร้อมขอให้ป.ป.ช.คำนึงถึงวัตถุประสงค์และตรวจสอบตามวัตถุประสงค์  ดูว่ามีข้อกฎหมายอะไรบ้าง หากข้อกฎหมายนั้นล้าสมัยก็ขอให้ช่วยกันมองว่าจะหาทางออกอย่างไร ไม่อยากให้ใช้วัตถุประสงค์ของตนเป็นที่ตั้ง และฝากถึงคณะกรรมการที่ป.ป.ช.ตั้งมาตรวจสอบในเรื่องนี้หากติดข้องหมองใจ หรือเห็นแตกต่างกันก็ให้มาหารือกัน ช่วยกันคิดช่วยกันพัฒนา

เมื่อถามย้ำว่าพร้อมที่จะปรับบหลักเกณฑ์แต่ไม่ถอยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วัตถุประสงค์ต้องเอาเป็นที่ตั้ง แต่กระบวนการถ้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ก็จะดี ต้องไปดูว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่เราปรารถนาหรือไม่ ถ้ายังอยู่ในวัตถุประสงค์ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็ถือว่าไม่มีปัญหา 

ขณะที่การกู้เงิน 5.6 แสนล้าน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่มีปัญหายากลำบาก  รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เงินเป็นล้านล้านบาท และเป็นพระราชกฤษฎีกาก็ออกมาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเห็นว่าประเทศวิกฤตต้องเดินหน้า ก็ควรจะต้องช่วยกัน ซึ่งตนคิดว่าโครงการนี้เป็นผลงานของประชาชนร่วมการทั่วประเทศ ทุกคนจะมีส่วนร่วมเป็นกำลังซื้อช่วยกันในช่วงที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ก็อยากขอความร่วมมือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคใด ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลคนเดียว