ส่องประวัติ สว.สายน้ำเงิน เกรียงไกร-มงคล คู่ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา
ส่องประวัติ คู่ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภาจากกลุ่มสว.สายสีน้ำเงิน "พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์"เพื่อนร่วมรุ่นวปอ.ของ"อนุทิน ชาญวีรกุล"กับ"มงคล สุระสัจจะ" อดีตอดีตอธิบดีกรมการปกครอง สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ทำงานรู้ใจ "บิ๊กเนม"
ชื่อ"พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์" และ"มงคล สุระสัจจะ"สองตัวเต็งซึ่งได้รับการคาดหมายว่าเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ ประธานวุฒิสภาคนใหม่ หลังการเลือกสว.67 จำนวน200คนได้เสร็จสิ้นลงเมื่อ26มิ.ย.67
ทั้งคู่เป็น สว.สายสีน้ำเงิน ในจำนวน 123คน คิดเป็นร้อยละ 61.50 ที่คาดว่าจะเข้ากุมเสียงในสภาสูง ตามมาด้วยสว.สายสีส้ม 18 คน คิดเป็นร้อยละ 9.00 สว.สายสีแดง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 สว.สายนายทุน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 4.00 สว.สายเขียวในป่า 7 คน คิดเป็นร้อยละ 3.50 สว.สายอื่นๆ 32 คน คิดเป็นร้อยละ 16.00
สำหรับ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เพิ่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ทบ.เมื่อ30ก.ย.66 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 (วปอ.61) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร กับอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
15 ก.ค. 2565 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กขัดข้อง ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา ขณะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจชายแดนใต้ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส อนุทิน ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ขับเครื่องบินลงไปเยี่ยมถึงห้องไอซียู
หลังการตั้งรัฐบาลเศรษฐา "อนุทิน"เข้าร่วมครม.ในตำแหน่งรมว.มหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง “พล.อ.เกรียงไกร” เป็นประธานคณะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และในสนามเลือกสว. พล.อ.เกรียงไกรได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคงจาก จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยความสนิทสนมกับ"อนุทิน" พล.อ.เกรียงไกรจึงถูกจับตาว่าอาจจะได้นั่งเก้าอี้ “ประธานวุฒิสภา”
ส่วนตัวเต็งสำคัญอีกคนคือ มงคล สุระสัจจะ เป็นอดีตอธิบดีกรมการปกครอง เคยถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่ต่อมาได้ขอถอนตัว ให้เหตุผลว่า เพื่อให้การบริหาราชการแผ่นดินสามารถดำเนินไปได้ และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในกระทรวง
มงคล สุระสัจจะ เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ลงสมัคร ส.ว.กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคงจาก จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง "พรรคบุรีรัมย์พัฒนา" ถือเป็นสายตรง “บ้านใหญ่บุรีรัมย์”ที่ทำงานรู้ใจกันมานาน
จับตาคู่ชิงแคนดิเดตเก้าอี้ประธานวุฒิสภา ระหว่างสาย"ทหาร"กับ"พลเรือน" จากกลุ่มสว.สายสีน้ำเงินซึ่งมีบิ๊กเนม บ้านใหญ่บุรีรัมย์ วางเกมขับเคลื่อนการเมือง เป็นฐานกองกำลังใหม่นับจากนี้ เป็นไปตามโผที่มีการคาดการณ์หรือไม่