บิ๊กต่าย ย้ำ ใช้ดุลพินิจสุจริต ไม่หวั่น บิ๊กโจ๊ก ฟ้องกลับ ปมให้ออกราชการ

หลังมติก.ตร. 12:0 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้นพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินสายยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ "บิ๊กต่าย" ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อในเครือเนชั่น ถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องของการให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นเรื่องของการอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ที่ต้องดูว่าจะวินิจฉัยออกมาเช่นไร หากวินิจฉัยว่า คำสั่งไม่ถูกต้องอย่างไร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ต้องปฏิบัติตามนั้น หากผลออกมาไม่เป็นคุณกับผู้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน สามารถไปร้องศาลปกครองสูงสุดได้
 

เรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อนขอให้ไปตามกระบวนการ ถ้าเราจะเอาตามความรู้สึกว่า เราต้องถอน ต้องแก้ อาจจะมีผลกระทบกลับมาที่สตช.ก็ได้ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นรักษารการผบ.ตร.แล้ว เป็นหน้าที่ของท่านผบ.ตร.ที่จะพิจารณา แต่ควรรอกระบวนการของ ก.พ.ค.ตร.ก่อนว่ากระบวนการวินิจฉัยก่อน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่ได้กลัวและไม่ได้กังวลหากโดนฟ้องร้อง เพราะการใช้อำนาจในขณะเป็นรักษาการผบ.ตร. ยืนยันว่า ไม่มีใครมายุยงส่งเสริมหรือมีใครมาหลอก เพราะใช้เวลากว่าครึ่งเดือนในการพิจารณาลงนามในคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาไปสกัดแข้งสกัดขาอะไรหรือใครก็ตาม
 

“ดุลพินิจในการพิจารณาเลือกผบ.ตร. จะเลือกเจรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผบ.ตร.คนใด ขึ้นเป็นผบ.ตร.อยู่ที่นายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย ไม่ใช่ผบ.ตร.เหมือนอดีต เราต้องเคารพ บางทีผู้ที่มีอาวุโสต่ำกว่าเราจะได้รับเลือกขึ้นมาก็ได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะมองว่าเราเป็นเบอร์หนึ่งนะ” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ส่วนที่ผู้ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนมีความเคลื่อนไหวและฟ้องดำเนินคดี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน สามารถออกมาชี้แจง ออกสื่อ ร้องทุกข์ ฟ้องร้องได้ ในฐานะผู้ออกคำสั่งว่ามั่นใจในพื้นฐานความสุจริตพร้อมกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฝากบอกถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ว่า อยากให้ตำรวจทุกคนหยุดคิดเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ขอให้ตำรวจมุ่งมั่นทำงานตามหน้าที่ตัวเอง อย่าหยุด อย่าสะดุด แล้วทำเพื่อประชาชน เพราะสิ่งที่ประชาชนสะท้อนกลับมาจะแสดงถึงความมั่นใจ ความเชื่อมั่นที่เขามีให้กับตำรวจ 

“ถ้าเราเอาสมาธิ เอาเวลามานั่งวิจารณ์ว่า คนนี้จะชนะ คนนี้จะแพ้ คนนี้จะติดคุก ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลากับเงินเดือนที่เราได้รับ พร้อมกับฝากถึงประชาชนอยากให้มีวิจารณญาณในการรับชมรับฟัง หรือดูข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียว่า สิ่งใดจริงไม่จริงอย่าง ขอให้ใช้วิจารณญาณอย่างมาก” รองผบ.ตร.กล่าว