ทักษิณ ย้ำ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แนะ หนทางรอดเอสเอ็มอี ต้องใช้ไอเดียนำ

หลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายในงาน Dinner talk ที่จัดโดยเครือเนชั่น ในหัวข้อ Vision Thailand นายทักษิณ ได้ตอบคำถาม 2 บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น ที่ร่วมกันซักถามหลายประเด็น

ช่วงแรก นายทักษิณ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชน เราต้องคุยกับธนาคาร ให้สำรองเงินไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ต้องถึงกับลงบัญชีขาดทุน แต่เราจะขอซื้อหนี้มาเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เศรษฐกิจไทยวันนี้ต่ำลงเรื่อยๆ มองว่า ยังไม่ต่ำสุด แต่ไม่น่าลงลึกกว่านี้ เพราะรัฐบาลจะทำอะไร ก็คิดว่า เอาอยู่ ต้องรีบดึงขึ้น ต้องเริ่มที่รัฐบาล ภาคเอกชนต้องช่วย ทั้งแบงก์ชาติ ทั้งเรื่องดอกเบี้ย ซอฟต์โลน แก้กับดักหนี้ เราไม่ต้องไปจูงใจให้แบงก์ชาติทำ แค่ต้องคุยกัน ช่วยกัน ตอนนี้ต่างจากปี 40 ตอนนั้นแบงก์ชาติไม่มีเงินสำรอง แต่ตอนนี้เงินสำรองเยอะเกินความจำเป็น

ส่วนเรื่อง Entertainment Complex เราสำรวจแล้วคนเห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ การลงทุนควรเป็นระดับแสนล้าน ในพื้นที่ กทม 2 แห่ง และ ต่างจังหวัดลงทุน 5 หมื่นล้าน  หัวใจคือรายได้จากเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่รายได้จากกาสิโน แต่เป็นการนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นสู่บนดินการมี ดิจิทัล วอลเลต ทำให้เกิดดิจิทัลไอดี  มีระบบไบโอแมทริกซ์ ก็จะทำให้รู้ว่าใครเล่น ควบคุมไม่ให้เด็กเล่น การพนันได้  

อีกเรื่องคือการเวรคืนรถไฟฟ้า รัฐรับทำแล้วจ้างเอกชนบริหาร เพราะถ้าเอกชนทำ เค้าก็ต้องทำกำไร เพราะต้องตอบแทนผู้ถือหุ้น แต่ถ้ารัฐทำ ให้บริการ 20 บาท คุณภาพชีวิต ของประชาชนก็จะดีขึ้น ใช้เวลาเดินทางลดลง

เมื่อถามว่า นายทักษิณ จะช่วยลูกแค่ไหน วางบริบทอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า ก็ต้องทำหน้าที่ช่วยคิด เสนอแนะ แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกฯ ผมมีหน้าที่พบสิ่งไหน ควรปรับปรุง แนวทางควรเป็นแบบไหน แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกฯ แต่คงจะอยู่เฉยๆ มองปัญหาบ้านเมืองแบบไม่สนใจ ไม่ได้ ถ้าตั้งให้ตัวเองเป็น สทร. ได้หรือไม่ ถ้าเห็นอะไรไม่ดี ต้องบอก จะได้แก้ไขกัน แม้ไม่ใช่ลูก ก็ต้องบอก เมื่อเห็นอะไรไม่ดี 

ถามว่าต้องถึงขนาดทำแทนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าเจอขยะสักชิ้น ก็ต้องเก็บทิ้ง

ถามว่า ตอนนี้มีภาคสังคม ภาคธุรกิจเข้าหาเยอะ นายทักษิณกล่าวว่า อะไรให้ความคิด ให้ความรู้ ใครมาคุยปรึกษา ก็ยินดี ถ้ามาวิ่งเต้น ไม่เกี่ยวกับผม ไม่ต้องมา บ้านผมเจอแต่เพื่อนฝูง ตอนนี้โดนบ่น ตั้งแต่มา ดื่มไวน์มากไปหน่อย จนลูกบ่น แต่ต้องดูแลตัวเอง เพราะอายุ 75 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่อีกกี่ปี 

ถามว่า นายทักษิณ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ถูกรัฐประหาร จะมีอีกหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีแล้ว วงจรนั้นหายไปแล้ว เชื่อว่า ไม่มีแล้ว ทุกอย่าง มีกลไกเยอะ เรื่องรัฐประหาร ปฏิวัติไม่น่ามีแล้ว นายกฯอุ๊งอิ๊งค์จะปลอดภัยจาก รัฐประหาร 
ในฐานะพ่อ ต้องห่วงใยลูก ต้องช่วยลูก แต่ไม่เข้าไปก้าวก่าย ในสถานะนายกฯของเขา แม้เป็นลูก ก็ต้องให้เกียรติสถานะที่เขาเป็นอยู่ ตอนอายุ 12 ปี ตั้งพรรคไทยรักไทย ไปที่บางกระทุ่ม พิษณุโลก เขาทำกล้วยตาก เขาแกะเปลือก แล้วน้ำยา อีเอ็มราด กลิ่นเหม็นมาก ถามว่า ตอนขึ้นรถถามเหม็นหรือไม่ เขาก็บอกเหม็นมาก แต่ไม่ทำท่า เพราะเดี๋ยวพ่อเสียคะแนน 

ภูมิใจลูกมาก รู้ว่างานหนัก กล้าบอกได้ว่า หนักกว่าวันผมเป็นนายกฯ สถานะบ้านเมืองวันนี้ หนักกว่า ดีเป็นบางอย่าง หนักเป็นบางอย่าง ระบบราชการแข็ง ต้องใช้กลไกราชการขับเคลื่อน แต่ยังเชื่อว่า เขาเป็นคนมีภาวะผู้นำดี อ่อนน้อนถ่อมตน เจอปลัด อธิบดี ยกมือไหว้ทุกคน เพราะอายุน้อยกว่า เชื่อว่า ลักษณะ สไตล์ของเขาขับเคลื่อนไหวว เขาเห็นผมเยอะ และผู้นำหลายคนได้จับมือกันไปหมด 

ถามว่านายกฯทักษิณ กับนายกฯแพทองธาร ศูนย์กลางอำนาจมาเสริม อยู่ที่จันทร์ส่องหล้า นายทักษิณกล่าวว่า ลูกกับพ่อมีแต่เสริมกัน เมื่อเขาเป็นนายกฯ เราก็ให้เกียรติที่เป็นนายกฯ มีแต่เกื้อกูล สนับสนุนกัน 

ถามว่า หากมีแนวคิดจะแก้ปัญหา อุปสรรคของ เอสเอ็มอี  ให้ดำเนินธุรกิจอย่างสะดวก และส่งเสริมการค้า การลงทุน ทำให้คนไทยแข็งทั้งในประเทศ นอกประเทศ นายทักษิณกล่าวว่า โลกมันเปลี่ยน คนเคยทำอะไรมา จะปรับตัวก็ลำบาก แต่เอสเอ็มอีต้องการปรับตัวสูงมาก ทำให้การผลิตมีคุณภาพขึ้น สำคัญคือเรื่องความคิดต้องมาก่อน ไอเดียต้องนำ เงินมาทีหลัง ถ้าไอเดียดี เงินเอาที่ไหนก็ได้ ตนผ่านมาหมด แลกเช็ค ดอกเบี้ยแพงก็เคยเจอมา ประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่เมื่อก่อน ใครให้กู้ ดอกร้อยละ 2 ถือว่ามีบุญคุณ ทุกวันนี้เจอ มีความรู้สึกดีกับเขา ตอนที่เราเล็กๆ ต่อลมหายใจไปวันๆได้ เอาเทคโนโลยีมาช่วยเอ็กซเรย์ ศุลกากรจะได้ไม่ต้องเปิดตู้กันเยอะ