posttoday

พปชร.กลุ่มบิ๊กป้อม ย้ำ เสนอชื่อรัฐมนตรี ต้องผ่านมติกรรมการบริหารเท่านั้น

23 สิงหาคม 2567

พลังประชารัฐ กลุ่มบิ๊กป้อม นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค โฆษกพรรค ยืนยันส่ง 4 รัฐมนตรี กระทรวงเดิม พัชรวาท ธรรมนัส สันติ อรรถกร ให้เลขาธิการนายกฯพิจารณา ชี้ ถ้าบางคนไม่ผ่านตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อไทยต้องแจ้งพรรค ให้กรรมการบริหารพรรคเคาะชื่อ ส่งกลับไปใหม่

ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โดยมีกรรมการบริหารพรรคที่ใกล้ชิดกับกลุ่มหัวหน้าพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง เช่น นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายอภิชัย เตชะอุบล นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ เป็นต้น ซึ่งครบ 12 คน เป็นจำนวนที่ครบองค์ประชุม แม้กรรมการบริหารพรรคในกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค จะไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งเรื่องโควตารัฐมนตรี ที่แต่ละกลุ่มส่งรายชื่อรัฐมนตรี ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณา 

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกของพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า ยืนยันเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ตามที่สส.พลังประชารัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี 

ต่อมาผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าว จำนวน 4 ท่าน ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ได้แก่

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 

"หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี พรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าวและจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตาม"พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ ยังกล่าวถึงกรณีหากรายชื่อคณะรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่มารยาททางการเมือง ควรจะต้องมีการประสานกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐก่อนว่า เกิดปัญหาในด้านใดกับรายชื่อบุคคลของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำการปรับเปลี่ยนรายชื่อต่อไป