posttoday

ปมคลิปลับเป็นเหตุ พร้อมพงศ์ ยื่นปปง. ไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน บิ๊กป้อม

16 กันยายน 2567

พร้อมพงศ์ ร้อง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร พ่วง โอ๋-ป๊อด สงสัยเข้าข่ายกระทำผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ หลังคลิปลับหลุด มีการพูดถึงการเรียกรับ เข้าข่ายได้ประโยชน์อื่นใด ระบุ ไม่ใช่เงินที่เกิดจากหนี้ถูกกฎหมาย จี้ ตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน

วันที่16 ก.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการปปง.ขอให้พิจารณาไต่สวน ดำเนินคดีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินพลเอกประวิตร รวมทั้งนายโอ๋ และ ป๊อด ซึ่งปรากฏชื่อในคลิป

ตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น จากกรณีคลิปเสียงหลุด เรียกรับเงิน ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พลเอกประวิตร ในฐานะที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นสส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ จึงต้องประพฤติตนโดยยึดถือผลประโยชน์ชาติเหนือกว่าส่วนตน  ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

“พูดง่ายๆ พลเอกประวิตร ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยาซึ่งก็ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ที่สำคัญจากบทสนทนาในคลิป น่าสงสัยว่าเงินที่พลเอกประวิตรถามหาเอาจากนายโอ๋ เป็นเงินที่ไม่ใช่เงินที่เกิดจากมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมาย และแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสุดท้ายแล้วมีการมอบเงินให้กับพลเอกประวิตรจริงหรือไม่ แต่ถือว่า เป็นความผิดสำเร็จแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510“นายพร้อมพงศ์กล่าว