เตือน รัฐบาล ลากจำเลยตากใบ มาลงโทษไม่ได้ ยากสร้างสันติภาพ3จังหวัดใต้
พรรณิการ์ ฮานาฟี กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ หวั่นผลกระทบ รัฐบาล นำจำเลยตากใบมาลงโทษไม่ได้ ยากสร้างสันติภาพ3จังหวัดใต้ กลุ่มก่อการร้าย นำไปขยายผลแน่ เผย 24ต.ค. เชิญกลาโหม สมช. แม่ทัพภาค4 รับมือผลกระทบตามมา หากคดีหมดอายุความ 25ต.ค. ยังไม่สามารถนำตัวจำเลยขึ้นศาล
ที่ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และนายฮานาฟี หมีนเส็น โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงข่าว การติดตามตัวจำเลยคดีสลายการชุมนุมตากใบว่า หากไม่สามารถนำจำเลยมาส่งศาลได้ก่อนหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในอย่างน้อย 3 ระดับ คือ
1. ประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้จะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกปฏิบัติอย่างสองมาตรฐาน จะเป็นการเพิ่มอุปสรรคในการสร้างความสมานฉันท์และสันติภาพในพื้นที่ นอกจากนี้ คดีตากใบจะเป็นอีกคดีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด (impunity) ในสังคมไทย
2. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจนำประเด็นดังกล่าวไปขยายผล และใช้เป็นข้ออ้างก่อเหตุรุนแรง เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล นำมาสู่ความสูญเสียในพื้นที่เพิ่มขึ้น
3. อาจเกิดความไม่แน่นอนในสถานะของการพูดคุยสันติสุขระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งมีการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่มาแล้วในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน และยังอยู่ระหว่างการกำหนดนโยบาย ที่ชัดเจนในการคลี่คลายความขัดแย้งในชายแดนใต้โดยรัฐบาลปัจจุบัน
คณะกรรมาธิการฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภายใต้เวลาอันจำกัดที่เหลืออยู่นี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีตากใบ จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถในการทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไปตามครรลอง และอำนวยความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ทั้งประชาชนผู้สูญเสีย และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์
คณะกรรมาธิการฯ ยังเห็นว่ารัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมให้กลับคืนมาและ ให้ความยุติธรรมกับผู้สูญเสียทุกคน ด้วยการนำผู้ถูกกล่าวหามาแสดงตนเพื่อพิสูจน์ตนเองต่อศาลตามระบบยุติธรรมต่อไป
และสุดท้าย หากไม่สามารถดำเนินการนำตัวจำเลยมาเข้ากระบวนการได้ทันเวลาก่อนหมดอายุความ คณะกรรมาธิการฯ เสนอให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อผู้เสียหายโดยมีคำแถลงชี้แจงอย่างเหมาะสมและชัดเจน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายปมความขัดแย้งในชายแดนใต้และปูทางไปสู่การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต
คณะกรรมาธิการฯ ยังมีมติให้เชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, และพลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาร่วมหารือกับคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 เพื่อประเมินผลกระทบจากคดีตากใบที่จะหมดอายุความ และหารือเพื่อออกแนวทางการรับมือที่เหมาะสม เพื่อธำรงกระบวนการสร้างสันติภาพและความปรองดองสมานฉันท์ในพื้นที่ชายแดนใต้ต่อไป