ภูมิธรรม สั่งหน่วยงานความมั่นคง ชงตัดขายไฟพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ภูมิธรรม สั่งหน่วยงานความมั่นคง ชงตัดขายไฟไปประเทศเพื่อนบ้านหากพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแสกนหากพบยังมีการส่งไฟให้ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ลั่นมีการดำเนินการปราบปรามทั้งยาเสพติด และ อาชญากรรม มาตลอด ยืนยันไม่กระทบอันดับการปราบปรามการค้ามนุษย์แน่นอน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง สั่งการให้ตัดการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา หากพบว่ามีการส่งไฟฟ้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า หากมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงก็มีสิทธิที่จะร้องสั่งการให้ตัดไฟได้ เรื่องการตัดไฟอยู่ในดุลยพินิจเขาอยู่แล้ว ที่ต้องทำการ แต่หากเขาไม่มั่นใจว่าบริเวณตรงนี้มีปัญหาหรือไม่ ก็จะให้ฝ่ายความมั่นคงช่วยดำเนินการถือเป็นการดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงที่หมายถึง คือ ทหาร ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ก็ต้องทำหน้าที่ประสานงานให้
"กระทรวงมหาดไทย ก็ถือเป็นหนึ่งหน่วยงานของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งต้องมีการหารือกัน เพราะอย่างที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ก็ได้มีการบูรณาการการทำงานทั้งหมด เราจะมีหน่วยบัญชาการที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ คือ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการ สารตั้งต้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือ นยบส. ซึ่งจะมีแม่ทัพภาคเป็นผู้ดูแล"
สำหรับประเด็นดังกล่าวถือว่ากระทบกับความมั่นคงหรือไม่นั้น หากพิจารณาในภาพรวม ก็จะดูว่ามีปัญหา แต่ประเด็นที่ 1 เรื่องตัดไฟที่จ่ายให้เมียนมา มี 2 จุด คือสะพานมิตรภาพไทย-ลาว บริเวณนั้นไม่ได้มีการตัดไฟฟ้า เพราะถือเป็นการใช้ไฟตามปกติ เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนมีศูนย์เด็กเล็กและแหล่งพยาบาล และไม่มีความเกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติด หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกส่วนคือจ.แม่ฮ่องสอน ก็ยังคงจ่ายไฟเช่นกัน เพราะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ แต่จุดที่มีปัญหาคืออำเภอแม่ระมาด และอำเภอแม่สอด ซึ่งเราได้ตัดไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2567
"มีประเด็นที่ได้สั่งการไปคือ หากพบว่าใคร ที่รู้ว่าจุดใดมีการส่งไฟให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยังมีการจ่ายไฟอยู่ ให้ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด มีความผิด ฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินการ ขอยืนยันว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 มีการตัดไฟในจุดที่มีปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงมีการรื้อเสาสัญญาณอินเตอร์เน็ตทั้งหมดแล้ว แต่หากเขาจะใช้เครื่องปั่นไฟเอง ก็ต้องติดตามดู เพราะเป็นเรื่องภายในของเขา"
ส่วนประเด็นแก็งคอลเซ็นเตอร์ ที่เกี่ยวพันไปถึงขบวนการค้ามนุษย์ด้วย รัฐบาลมีความกังวลว่าไทยจะถูกปรับลดอันดับใน มาตรการป้องกันการค้ามนุษย์ หรือ เธียร์ ลงเหลือเธียร์ 2 หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะ ปัจจุบันมีการแก้ไขปัญหา ไม่ได้นิ่งเฉยสิ่งที่เราทำทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติดอย่างเดียว แต่จะใช้เรื่องยาเสพติดนำทาง ไปในเรื่องของการปราบปรามอาชญากรรม ออนไลน์ตามแนวชายแดน เช่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ทุกอย่างจะรวมศูนย์อยู่ในนี้ เรื่องนี้เราได้มีการหารือ ไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งในระดับกองทัพ ตำรวจ
"เรื่องนี้อยากให้มั่นใจ เมื่อรัฐบาลมอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เพราะมันเกี่ยวพันหลายเรื่อง จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจและสบายใจ ในช่วง 6 เดือน ได้เห็นผลอย่างแน่นอน ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่ได้รวมปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งต้องมีมาตรการเฉพาะ"