
DSI เดินหน้าคดีฮั้วเลือกสว.ล็อคเป้าสอบพยานบุคคลตามโพยชุดA,B
ผู้สื่อข่าวรายว่า คดีฮั้วเลือกสว.กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด จัดประชุมนัดแรกเมื่อ 21มี.ค.68 โดยมี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นประธานการประชุม
วาระการประชุมมีการนำเสนอข้อเท็จจริงในคดีโดยหยิบยกหลักฐานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนคือโพยฮั้วสว.ชุดAและชุดB
เป็นหลักฐานชุดเดียวกันกับที่ได้แจ้งให้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบเมื่อวันที่ 17มี.ค.68 นำเสนอข้อเท็จจริงที่ปรากฎในตามหลักฐานเทียบกับข้อกฎหมาย
จากหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานผู้เชี่ยวชาญ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สรุปเบื้องตันมีมูลเชื่อได้ว่าการเลือกสว.ระดับประเทศ เมื่อ26 มิ.ย.67 มีโพยฮั้ว สว.ให้เลือกหมายเลขรวม 140 คน (เป็นสว.138คน+สำรอง2คน)
มีรายชื่อตั้งแต่กลุ่มที่ 1 ถึงกลุ่มที่20 มีเบอร์ให้เลือกดังนี้
- กลุ่ม 1 ให้เลือกเบอร์ 7, 111, 84, 49, 45, 126, 148
- กลุ่ม 2 ให้เลือกเบอร์ 20, 55, 110, 124, 136, 129, 18
- กลุ่ม 3 ให้เลือกเบอร์ 123, 133, 112, 104, 51, 150, 140
- กลุ่ม 4 ให้เลือกเบอร์ 66, 47, 127, 59, 84, 100, 106
- กลุ่ม 5 ให้เลือกเบอร์ 111, 145, 65, 125, 108, 118, 26
- กลุ่ม 6 ให้เลือกเบอร์ 79, 23, 40, 33, 152, 43, 16, 51
- กลุ่ม 7 ให้เลือกเบอร์ 56, 8, 98, 10, 116, 23, 20
- กลุ่ม 8 ให้เลือกเบอร์ 10, 83, 121, 102, 17, 57, 143
- กลุ่ม 9 ให้เลือกเบอร์ 56, 131, 11, 121, 60, 104, 26
- กลุ่ม 10 ให้เลือกเบอร์ 109, 24, 99, 123, 40, 80, 95
- กลุ่ม 11 ให้เลือกเบอร์ 141, 10, 81, 104, 26, 75, 130
- กลุ่ม 12 ให้เลือกเบอร์ 65, 52, 47, 32, 23, 19, 27
- กลุ่ม 13 ให้เลือกเบอร์ 65, 111, 36, 123, 39, 1, 9
- กลุ่ม 14 ให้เลือกเบอร์ 140, 15, 17, 148, 128, 24, 21
- กลุ่ม 15 ให้เลือกเบอร์ 50, 3, 58, 2, 35, 116, 123
- กลุ่ม 16 ให้เลือกเบอร์ 143, 112, 24, 59, 109, 69, 148
- กลุ่ม 17 ให้เลือกเบอร์ 56, 83, 130, 23, 117, 21, 132
- กลุ่ม 18 ให้เลือกเบอร์ 127, 18, 111, 129, 144, 37, 22
- กลุ่ม 19 ให้เลือกเบอร์ 3, 5, 122, 22, 2, 152, 108
- กลุ่ม 20 ให้เลือกเบอร์ 4, 106, 144, 45, 81, 31, 100
หลังการประชุมนัดแรกซึ่งมีการวางโครงตั้งเรื่องดำเนินการสอบสวนไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎในโพยฮั้วสว.ชุดAและชุดBแล้ว คณะทำงานคดีนี้จะเรียกพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว.มาสอบปากคำ
การสอบสวนมุ่งเน้นพยานบุคคลที่มีส่วนในการรับโอนเงิน อาศัยอำนาจตามข้อบังคับ กคพ.ว่าด้วยแนวทางการสอบสวนบุคคลที่เป็นพยานสำคัญในคดีพิเศษ พ.ศ. 2568 ประกอบ ข้อบังคับ กคพ.ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในคดีพิเศษระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่เพิ่งมีการประกาศในเว็บไชต์ราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 19มี.ค.68
ประเด็นสำคัญการสอบสวนรวบรวมหลักฐานสอบปากคำพยานบุคคลเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน
สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์ พ.ต.ต.ยุทธนาในการประชุมนัดแรก หากพยานยินยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็น"พยานสำคัญในคดีพิเศษ"และกลัวว่า"จะไม่ปลอดภัย" อธิบดีดีเอสไอมีอำนาจตามข้อบังคับนำบุคคลดังกล่าวเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยาน
ส่วนตามที่ปรากฎมีพยานในคดีฮั้วสว.กว่า7,000คน ตามเอกสารที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (เดีเอสไอ) ส่งไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ปรากฎเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและอัยการจะเลือกเฉพาะบุคคลปากสำคัญเข้ามาเป็นพยานในคดี เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดีให้ทันกรอบระยะเวลา 3 เดือนหรือราว90วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กกต.มีอำนาจไต่สวนและเพิกถอน สว.ออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ หน้าที่หลักของดีเอสไอมุ่งเน้นเรื่องคดีทางอาญา นอกเหนือจากฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แต่หากพบความผิดเพิ่มเติมในข้อหาอื่น พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินคดีได้ แต่ต้องทำคดีหลักให้แล้วเสร็จก่อน