ไทย ขยับตัวช้าเกินไปหรือไม่ หลังทรัมป์จ่อรีดภาษีเพิ่ม 37%

แม้ก่อนหน้านี้ หลายฝ่าย จะออกมาแสดงความมั่นใจว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจและการค้าไทย เพราะทรัมป์ เป็นนักธุรกิจ น่าจะผลักดันบรรยากาศการค้าโลกให้คึกคักขึ้น แต่ผ่านไปเพียง 3 เดือน การประกาศปลดปล่อยอเมริกา ด้วยการประกาศนโยบายภาษีต่างตอบแทน เพื่อตอบโต้ประเทศคู่ค้า ที่ดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้า ซึ่งไทยอาจจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรสูงถึง 37 % หากไม่สามารถเจรจากับสหรัฐได้สำเร็จภายในวันที่ 9 เมษายน ที่ภาษีอัตราใหม่จะมีผลบังคับใช้

 

และนี่คือสิ่งที่รัฐบาลไทย ได้ดำเนินการในช่วง 24 ชม.แรก

 

-โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าในสหรัฐทุกประเภท กับประเทศที่ได้ดุลการค้า โดยไทย ถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 37 %

-นายกฯตั้งทีมเจรจาสหรัฐ ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงการคลัง รับผิดชอบ แต่ต้องดูว่าจะไปพูดคุยกับใคร ในระดับไหน เชื่อไทยต่อรองได้

-นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ท่าทีของไทยพร้อมหารือเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐ หวังสืบสานความร่วมมือระยะยาว

- “ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาชน” แนะ รัฐบาล ทิ้งไพ่ทีละใบ คิดถึงผู้เสียประโยชน์ ชี้ ควรเริ่มจินตนาการถึง “โลกที่ไม่มีอเมริกาและจีน”

 

-กระทรวงการคลัง ประชุมด่วน ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม บีโอไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบและแนวทางการเจรจาต่อรอง

-วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยยังมีเวลาที่ไทยจะเจรจาต่อรองได้ โดยรอเพียงให้สหรัฐฯ รับนัด หากเดินทางไปไม่ทัน  จะมีทีมไทยแลนด์ ที่เป็นเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นหัวหน้าคณะ แต่หากมีเวลาเดินทางไป รมว.พาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะไปเจรจาเอง

-พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เผยตกใจที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีไทยในอัตราสูงมากเกินกว่าความคาดหมาย ระบุคืนวันที่ 2 เม.ย. หลังทรัมป์ประกาศพิกัดภาษี ได้ยกหูไปสหรัฐฯ ทันที แต่สหรัฐฯ ยังไม่รับสาย เตรียมแผนปรับสมดุลการค้าไทย-สหรัฐฯ ลดผลกระทบจากภาษี 37% จ่อเพิ่มนำเข้าวัตถุดิบ เช่น ข้าวโพด หมู ปลาทูน่า พร้อมปรับลดภาษีนำเข้า เตรียมเดินทางเจรจาสหรัฐฯ