ภาคใต้ระทมน้ำท่วม
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คนทั้งประเทศต่างระดมน้ำใจครั้งใหญ่กันอีกครั้งหลังจากพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ต้องประสบกับวิกฤตน้ำท่วมดินโคลนถล่มอีกครั้ง
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คนทั้งประเทศต่างระดมน้ำใจครั้งใหญ่กันอีกครั้งหลังจากพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ต้องประสบกับวิกฤตน้ำท่วมดินโคลนถล่มอีกครั้ง
ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาเมื่อไม่นานมานี้
ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมาก บรรดานักการเมืองในฐานะผู้แทนราษฎรก็ได้สร้างเรื่องงามหน้าให้กับสังคมอีกครั้งด้วยการขาดประชุมรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎร จนทำให้องค์ประชุมล่มถึง 3 วันติดต่อกัน
ส่วนประเด็นการเมืองอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างการประกาศร่วมงานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
มาเริ่มกันที่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยล่าสุดศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) สรุปว่า ภาพรวมของสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-1 เม.ย. ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชนใน 87 อำเภอ 568 ตำบล 4,615 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 294,097 ครัวเรือน 998,867 คน เสียชีวิต 25 คน แบ่งเป็น นครศรีธรรมราช 13 คน สุราษฎร์ธานี 4 คน พัทลุง 2 คน กระบี่ 6 คน บาดเจ็บ 181 คน และมีผู้อพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมด 6,757 คน ส่วนด้านการเกษตรเสียหาย 732,655 ไร่ จราจรใช้การไม่ได้ 22 เส้นทาง
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ปริมาณฝนจะเบาบางลงจนถึงวันที่ 4 เม.ย. โดยพื้นที่ที่ยังคงประสบปัญหามีประชาชนติดค้างอยู่จำนวนนับพันคน คือ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด มีสภาพเหมือนเกาะ รัฐบาลได้เร่งลำเลียงเครื่องอุปโภค บริโภค เข้าไปทางเฮลิคอปเตอร์ และได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ เข้าไปตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งติดตั้งระบบสื่อสาร
ส่วนการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทางคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) มีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 5,000 บาทต่อครัวเรือน และจะขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มเบิกจ่ายได้หลังเทศกาลสงกรานต์
เปลี่ยนบรรยากาศมากันที่การประชุมร่วมรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎรกันบ้าง เพราะปรากฏว่าได้สร้างสถิติด้วยการที่องค์ประชุมล่มติดต่อกัน 3 วัน ระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค. จนทำให้ไม่สามารถลงมติรับรองรายงานบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับ และส่งผลต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย ต้องสะดุดลงเช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาพอสมควร ถึงกับกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากฝ่ายค้านเล่นเกมการเมือง เพราะเข้าประชุมแต่กลับไม่เสียบบัตรแสดงตน ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จึงควรแก้ไขระเบียบการประชุมให้นับคนที่อยู่ในห้องเป็นองค์ประชุม แต่สาเหตุสำคัญ คือ การประกาศยุบสภาล่วงหน้าของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีผลให้ สส.ไม่สนใจจะเข้าร่วมประชุมสภา แต่ให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่แทน
นายอภิสิทธิ์ก็แสดงความไม่พอใจเช่นกันว่า การที่ สส.ขาดการประชุมจนเป็นเหตุให้สภาล่ม 3 วันติดต่อกัน โดยอ้างเพราะใกล้ยุบสภาไม่ได้ ถ้าคิดจะไปทำอย่างอื่นก็ให้ลาออก
“จะมาบอกว่าใกล้ยุบสภาแล้วไม่ปฏิบัติภารกิจไม่ได้ ดังนั้นประธานจะใช้วิธีประจานก็ได้ ประกาศให้ประชาชนทราบจะได้ให้ประชาชนที่เลือกพวกเราเข้ามาไปตัดสินใจ ส่วนเหตุผลที่ยุบสภาแล้วไม่มาสภา มันไม่ใช่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองคงไม่มีเรื่องไหนโดดเด่นเท่ากับงานวันเกิดอายุครบ 78 ปี ของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพราะได้ประกาศเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า และมั่นใจพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นแน่นอน โดยจะสนับสนุนให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะมีแกนนำจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้า อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์มาอวยพรนายเสนาะ และเชิญชวนเข้าพรรคเพื่อไทย
“ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคเพื่อไทยจะชนะแน่นอน โดยขอเชิญนายเสนาะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติเสียหายจากการปฏิวัติ เชื่อว่านายเสนาะจะสามารถทำงานให้แก่ประเทศชาติได้” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ความคึกคักของพรรคเพื่อไทยดูสวนทางกับพรรคประชาสันติเป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีต รมว.มหาดไทย ซึ่งเคยมีข่าวว่าจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาสันติ ได้ปฏิเสธเข้าร่วมงานกับพรรค แต่ไปตั้งพรรครักสันติแทน โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาสันติ เปิดเผยว่า ร.ต.อ.ปุระชัย ได้ขอถอนตัวจากพรรคประชาสันติแล้ว ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพรรคประชาสันติจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่คาดว่าคงส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง
“เหตุผลที่ ร.ต.อ.ปุระชัย ทิ้งพรรคนั้น ต้องไปถามเจ้าตัวเอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังจากเปิดตัวจะมาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ผมจะไม่ย้ายตาม ร.ต.อ.ปุระชัย ไปอยู่พรรคใหม่” นายเสรี กล่าว
หลังจากที่หลบหนีอยู่นาน ในที่สุดนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ มามอบตัวกับตำรวจกองปราบปราม ตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหารู้หรืออาจรู้ความลับในราชการกระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามที่ถูกกล่าวหาว่าลักลอบบันทึกคลิปวิดีโอการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยพนักงานสอบสวนให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 7.5 หมื่นบาท ด้านคนเสื้อแดงเตรียมดึงนายพสิษฐ์เข้ามาร่วมเวทีเสื้อแดงในวันที่ 10 เม.ย.นี้ทันที เพื่อเปิดโปงกระบวนการดังกล่าว
ปิดท้ายข่าวสุดสัปดาห์กันที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีมติให้ไม่รับคำร้องเรื่องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภา 80 คน ขอให้พิจารณาว่าบันทึกการประชุมเจบีซี รวม 3 ฉบับ เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ถึงขั้นที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเพราะยังมีขั้นตอนอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องพิจารณาดำเนินการเสียก่อน