"ชุมพล"แจงปัญหาขัดแย้ง"มาร์ค"จบแล้ว

"ชุมพล"ลั่นปัญหามาร์คเฟซบุ๊คจบแล้ว ไม่ต้องเคลียร์อะไรกันอีกแม้ไม่ได้เข้าประชุมครม.วันนี้ ย้ำกั๊กร่วมรัฐบาลขอดูหลัง 3 ก.ค.

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการเขียนข้อความลงบนเว็บไซต์เฟซบุ๊คที่มีการระบุว่าการร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีตัวเลือก ถือว่าจบแล้วไม่มีความขัดแย้งอะไรกันอีก และคงจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้อีกแล้วแม้ว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 มิ.ย.ส่วนตัวจะไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพราะได้ลากิจเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งและที่สำคัญกรณีจะไม่เป็นเงื่อนไขต่อการร่วมรัฐบาลในอนาคตอย่างแน่นอน

"ผมกับท่านอภิสิทธิ์ทำงานร่วมกันมานานตั้งแต่ผมนั่งเป็นหัวโต๊ะนายกสภามหาวิทยาลัยศิลปากร 6 ปีเวลานั้น แต่มาตอนนี้กลับกันท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีนั่งหัวโต๊ะผมเป็นรัฐมนตรีเป็นลูกน้อง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงกันไปตามเวลาแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาผมกับท่านอภิสิทธิ์ก็มีความสนิทสนมกันมาก่อนเรื่องแบบนี้คงไม่สามารถมาทำอะไรกันได้" นายชุมพล กล่าว

นายชุมพล กล่าวว่า ในกรณีของการจับขั้วตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาจะขอรอดูหลังจากวันที่ 3 ก.ค.ก่อนว่าพรรคการเมืองไหนจะมีเสียงข้างมากก็มีสิทธิ์ได้เป็นจัดตั้งรัฐบาลก่อนถ้าพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งไม่ได้ก็เป็นสิทธิของพรรคที่มีเสียงลำดับถัดไปในการดำเนินการ  อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทางการเมืองของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวหัวหน้าพรรคแต่จะต้องเอาเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อให้มีมติพรรคออกมาอย่างเป็นทางกการไม่ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองไหน

"เพื่อให้รัฐบาลเกิดเสถียรภาพมากทีสุดคิดว่าควรจะต้องมี 300 เสียงเพราะถ้าน้อยกว่านั้นการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะถ้าเอาสส.มาเป็นรัฐมนตรีเพราะจะลงมติในสภาฯไม่ได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานั้นโดยเชื่อว่าการเมืองหลังวันที่ 3 ก.ค.ไม่น่าจะมีความวุ่นวายอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองหรือสีแดง"นายชุมพล กล่าว

เมื่อถามว่า การจับขั้วตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะใช้เวลานานหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนนูญประเมินว่าภายในเดือนส.ค.ถึงจะได้เห็นตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพราะภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศรับรองสส.ให้ได้ 95% เพื่อเปิดประชุมสภาฯครั้งแรกเป็นรัฐพิธีจากนั้นต้องประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ ซึ่งคาดว่าภายในระหว่างวันที่ 10-15 ส.ค.น่าจะแล้วเสร็จ ต่อด้วยการประชุมสภาฯเพื่อเลือกนายกฯคาดว่าน่าจะหลังวันที่ 20 ส.ค.ถึงจะดำเนินการได้

"มองว่าความชัดเจนทางการเมืองจะปรากฎว่าให้เห็นจากตัวบุคคลที่จะมาเป็นประธานรัฐสภาถ้าสส.พรรคการเมืองไหนได้ตำแหน่งพรรคการเมืองนั้นคือแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยพ.ศ.นี้คงเกิดงูเห่าได้ยากเช่นเดียวกับรัฐบาลเสียงข้างน้อยแบบสมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช" นายชุมพล กล่าว

นายชุมพล กล่าวว่า สำหรับเวลาที่เหลืออีก3 สัปดาห์พรรคจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์นโยบายสร้างความปรองดองให้เป็นที่รับรู้ของประชาชนเพิ่มมากขึ้น และเน้นการตั้งเวทีปราศรัยหาเสียงตามต่างจังหวัดเพื่อให้ได้คะแนนความนิยมจากประชาชนมากที่สุด