รู้จัก “ประสิทธิ์ชัย หนูนวล” นักสู้สิ่งแวดล้อม ชูกัญชาบูชาเทพเจ้า

ลุกเพื่ออนาคต 

“ประสิทธิ์ชัย หนูนวล” หรือ “แกนนำเครือข่ายเพื่อประชาชน” เกิดและเติบโตมีภูมิลำเนาเป็นคนใต้แดนพัทลุง  มีนิสัยเรียบร้อยแบบร้อยเรียบจนเพื่อนๆ เรียกว่า “มหา” ติดปาก การศึกษาร่ำเรียนเรื่องเกี่ยวกับการเงิน บริหารและจัดการ จบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 

ชีวิตประสิทธิ์ชัยดำเนินไปแทบไม่มีอะไรแปลกจากคนอื่น คือ เรียนจบเข้าทำงานบริษัทเป็นมนุษย์ออฟฟิศ แต่ทว่าภายใต้แว่นตากลมดวงนัยน์สีขาวสิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไปของประสิทธิ์ชัย คือ มักจะตั้งคำถามกับเศรษฐศาสตร์อยู่ตลอดเวลาว่า ‘ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์’ นั้นแท้จริงแล้วถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนคนส่วนใหญ่จริงหรือไม่ด้วยซ้ำ

จนเมื่อได้มาสัมผัสทำงาน ‘การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกับชาวประมงพื้นบ้าน’ โดยการทำที่หลบภัยให้ปลาและฟื้นฟูพันธุ์สัตว์น้ำ ที่จ.นครศรีธรรมราช ความพยายามนับ 10-20 ปี ของชาวบ้านต้องล่มสลาย เพราะนิคมอุตสาหกรรมมาลงชายฝั่งทะเล หรืออย่างการทำเกษตรอินทรีย์ ตามที่ประชาชนที่พี่น้องชาวพัทลุงมีวิสัยทัศน์อยากให้ทำ ก็ต้องล่มตั้งแต่กระบวนการเริ่มลงมือปฏิบัติการ เพราะตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเต็มไปด้วยสารเคมี 

และนั้นทำให้จากคำถามก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทาง ‘นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม’ ตั้งแต่นั้นมา โดยประสิทธิ์ชัย กล่าว ไว้ในบทสัมภาษณ์ The101.world ก่อนเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ว่า ในช่วง 5 ปี ให้หลัง รู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ไหวแล้วนะ เราต้องกำหนดอนาคตการพัฒนา ไม่ใช่ค้านโครงการนี้เสร็จ โครงการโน้นมา ตกลงชีวิตนี้ไม่ต้องทำอะไร ถ้าเรากำหนดอนาคตได้ก็คงดี

สู้ตัวตายโดย 'สันติวิธี'

ในปี 2556 ภารกิจแรกของประสิทธิ์ชัยเริ่มต้นขึ้น โดยร้องเรียนคัดค้านในประเด็นปัญหา ‘โรงไฟฟ้าถ่านหิน’ ที่ อ.ท่าศาลาและอ.หัวไทร จ.กระบี่ เพื่อพี่น้องคนอันดามัน การประท้องกินเวลายาวนานเป็นปีๆ ก็ไม่มีท่าทีจะจบ 

ปี 2558 เดือนกรกฎาคม การเคลื่อนไหวกดดันเรื่องดังกล่าวเห็นเด่นชัดมากขึ้น หลังประสิทธิชัยและเพื่อน พร้อมกับประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับโรงไฟฟ้าถ่านหินตัดสินใจอดข้าวประท้วง ยอมตายถ้าโรงไฟฟ้าถ่านหินถูกสร้าง บริเวณหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน้าทำเนียบรัฐบาล ผลงานการสู้ตายอดข้าวนับ 14 วัน สัมฤทธิ์ผล รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศชะลอโครงการนั้นในที่สุด 

ปี 2560 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ อย่างไรก็ตามแม้กระนั้นชื่อของประสิทธิ์ชัยก็ได้ปรากฎในกลางใจคนปักษ์ใต้มากมาย และกลายเป็นแกนนำกำลังสำคัญต่างๆ หลากหลายบทบาทหน้าที่ทางด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.) ในฐานะตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น, หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยการขุดคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (ปัจจุบันลาออกแล้ว) หรือ แกนนำเครือข่ายประชาชน 

10 ปี 'สู้ไม่หยุด' ล่าสุดค้านกัญชา ไม่ใช่ยาเสพติด

นอกจากเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ประสิทธิ์ชัยได้ร่วมรณรงค์คัดค้านเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเรื่อยมา อาทิ การเคลื่อนไหวคัดค้าน “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ” การนำเสนอความรู้เพื่อให้เกิดการตระหนักปกป้องพื้นที่ผลิตอาหารของคนอ่าวทองคำ จ.นครศรีธรรมราช ฯลฯ 

หลากต่อหลายเรื่องมากมายที่ชื่อของประสิทธิ์ชัยขึ้นพาดหัวตัวไม้ในการเรียกร้องคัดค้านต่างๆ ถึงวันนี้ก็นับระยะเวลาราวร่วมกว่า 10 ปี ด้วยกันแล้ว ที่ประสิทธิ์ชัยเดินอยู่บนเส้นทางนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยในครั้งนี้จะเกิดขึ้นวันอังคาร ที่  22 พ.ย. 2565 หรือวันพรุ่งนี้ที่จะเขียนอนาคตกัญชา โดยประสิทธิชัยนัดบุกทำเนียบค้านการนำ ‘กัญชา’ กลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง 

และพร้อมกันนั้นหนุนดัน พ.ร.บ.กัญชาฯ บังคับใช้ กั้นท่าฝั่งคู่กรณีที่คัดค้านต้องการรีเซ็ตและเอื้อบริษัทยา กลุ่มทุนแบบสุรา เบียร์ ตลาดน้ำเมา ที่ได้ประโยชน์กันอยู่ไม่กี่ตระกูล 

และนี่คือเรื่องราวนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยสันติวิธี ถึงเหตุและผลความเชื่อของตัวเองที่เราจะร่วมดูผลคำตอบ พร้อมนำเสนอให้ได้รับทราบกันอย่างทันท่วงที