ผบ.ตร.รอผลสอบตำรวจรีดไถนทท.ไต้หวัน-หาทางอุดชองโหว่ตั้งด่าน
ผบ.ตร.ไม่เข้าข้างลูกน้องรอผลสอบสวนตำรวจตั้งด่านรีดไถ่นักท่องเที่ยวไต้หวัน รับย้ายผกก.ห้วยขวาง สะท้อนความบกพร่องในหน้าที่กำกับดูแลแต่ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นย้ายผบช.น.ตามที่ชูวิทย์กดดัน
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกตำรวจเรียกรับเงินขณะนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้มีคำสั่งให้ ผกก.สน.ห้วยขวาง มาปฏิบัติราชการที่ศปก.ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งให้มีการสอบสวนพยานต่างๆ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ทั้งอาญาและวินัย ทางการปกครอง ยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมและคนผิดก็ต้องถูกลงโทษ เรื่องนี้ได้เข้ามาควบคุมกำกับดูแลด้วยตนเอง
ส่วนประเด็นการไม่ดำเนินคดีเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า จะเข้าข่ายความผิดกับชุดจับกุมหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทางผบช.น.ได้พูดตอบประเด็นนี้ไปบ้างแล้วขอให้รอความชัดเจนไปในทิศทางเดียวกัน ขอให้รอผลจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีทางอาญาไปแล้ว และมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ถามถึงประเด็นการย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง สะท้อนข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งแสดงว่ามีความบกพร่องเกิดขึ้น จึงได้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ก่อน หากผกก.ควบคุมไม่ดีแล้ว รองผกก.ป และสวป. ก็จะต้องโดนด้วย
เมื่อถามว่ากรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กดดันให้ย้ายผบช.น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่าตามข้อเท็จจริง เพราะเรื่องการกระทำความผิดในกรณีการตั้งจุดตรวจคงจะเป็นระดับข้างล่าง จริงๆ เรามีคำสั่งการกำกับดูแล 1212 ไว้ส่วนหนึ่งว่าผู้บังคับบัญชา 2 ระดับ จากผู้ที่กระทำผิดขึ้นมา เช่น หัวหน้าด่านคือรองสารวัตร ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการควบคุมกำกับดูแลคือสารวัตร และรองผู้กำกับ แต่เมื่อคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวพันกับเรื่องหลายๆ เรื่อง และเป็นเรื่องที่ได้มีการกำชับไว้แล้วในเรื่องการตั้งด่านตรวจหรือจุดตรวจ ต้องมีมาตรฐาน หัวหน้าสถานีก็หนีไม่พ้นความรับผิดชอบ จึงต้องเอาถึงหัวหน้าสถานี แต่ถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือไม่มองว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นต้องให้ความเป็นธรรมด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้บังคับบัญชาถูกลูกน้องปิดบังข้อเท็จจริง ผบ.ตร. กล่าวว่า โดยหลักการผู้ที่ทำความผิดมักจะไม่ยอมรับ เราก็เห็นอยู่สม่ำเสมออยู่แล้ว แต่เราในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องค้นหาความจริงนี้ให้ได้
อยากให้ความเชื่อมั่นว่าในเรื่องต่างๆ เราในฐานะผู้รักษากฎหมาย ถ้าเกิดตำรวจผู้รักษากฎหมายทำผิด ก็ต้องลงโทษอย่างจริงจัง และก็ตำรวจดีๆ ยังมีอีกเยอะ วันนี้ เราทุกคนกำลังอยูในโลกใหม่ โลกของยุคโซเชียลที่มีกล้องจำนวนมาก การกระทำความผิดมันก็ปกปิดได้ยาก จริงๆ มันอาจจะมีมาแต่ไม่มีใครพบเห็น เราก็ต้องแก้กันไป เพื่อว่าในอนาคตมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อมั่นว่าต้องดีขึ้นแน่นอน เพียงแต่อยากให้เห็นว่า ตำรวจที่ดีๆ ก็ยังมีที่เสี่ยงอันตรายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการจับกุมคนร้าย