เพื่อไทย เตือนรัฐบาลรับมือภัยแล้งรุนแรง แนะหารายได้ใหม่ผ่านคาร์บอนเครดิต
เพื่อไทย เตือนรัฐบาลเตรียมการรับมือสู้ภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญและภาวะโลกร้อน หนุนแนวคิด เกษตรแม่นยำเท่าทันสภาพภูมิอากาศ สร้างรายได้ใหม่ผ่านคาร์บอนเครดิต ให้ได้มาตรฐานสากลและมีราคาทัดเทียมตลาดโลก
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานนโยบายเกษตร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความกังวลต่อปัญหาภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญและภาวะโลกร้อน คณะทำงานนโยบายพรรคเพื่อไทย หารือกันร่วมกันกับอดีตรัฐมนตรีและอดีตข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตและว่าที่ ส.ส. รวมถึงนักวิชาการด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมหลายคน เพื่อระดมความคิดเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น
รองศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเกษตร กล่าวว่า จากการวิจัยผ่านแบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ชี้ไปในทางเดียวกันว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในขณะนี้ กำลังเร่งตัวขึ้นสู่ ‘ระดับรุนแรง’ ในช่วงปลายปีนี้ และส่งผลให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลร้อนขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 2 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งในรอบ 73 ปีที่ผ่านมา นำมาซึ่ง ‘ภัยแล้งรุนแรง’ และปัญหาในการทำการเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และภาคอีสานบางส่วนที่อยู่นอกเขตชลประทาน
คณะทำงานพรรคเพื่อไทยมี 5 ข้อสรุปเชิงนโยบายเสนอแนะต่อการทำงานของภาครัฐ ดังนี้
1. ระยะเร่งด่วน : ควรออกคำเตือนเกี่ยวกับภัยแล้งในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบทันที โดยแจกแจงแยกรายพื้นที่ตามความแตกต่างด้านการชลประทานและสภาพภูมิศาสตร์ เพื่อให้เกษตรกรมีความระมัดระวังในการเพาะปลูก และให้ความเข้าใจต่อแนวทางในการปรับตัวภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ผ่านบุคลากรทางการเกษตรของรัฐในระดับพื้นที่
2. ศึกษาตลาดผลผลิตทางการเกษตร และข้อจำกัดของสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป : เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การทำการเกษตรของประเทศใหม่ ลดพื้นที่การเกษตรที่ใช้น้ำมาก ส่งเสริมการปลูกพืชมูลค่าเพิ่มสูงที่มีตลาดรองรับ และการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง
3. พิจารณามาตรการช่วยเหลือแบบมีเงื่อนไขพร้อมหลักประกันความเสียหายแก่เกษตรกร : เพื่อจูงใจให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำเกษตร และชี้นำลงทุนทางการเกษตรให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของตลาดมากขึ้น
4. ผนึกกำลังกับภาคการศึกษา : เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในภาควิจัยและพัฒนาการเกษตร และใช้กลไกของมหาวิทยาลัยในการร่วมให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ พร้อมขยายศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่สู่การปฏิบัติจริง
5. เร่งส่งเสริมการสร้างระบบ Carbon Credit ในประเทศให้ได้มาตรฐานสากลและมีราคาทัดเทียมตลาดโลก : เพื่อสร้างรายใหม่แก่เกษตรกร ผ่านการปรับเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“พรรคเพื่อไทยส่งเสริมแนวคิด ‘เกษตรแม่นยำ (precision agriculture) ที่เท่าทันสภาพภูมิอากาศ’ ปัญหาภัยแล้ง เป็นวาระใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งรับมือให้ทันท่วงที หากปล่อยให้เกษตรกรต้องจัดการกับปัญหานี้ด้วยตัวเอง อาจสร้างความเสียหายแก่ภาคการเกษตรอย่างมหาศาล จึงต้องออกมาแจ้งเตือนให้ประชาชนและรัฐบาลปัจจุบันรับทราบ โดยรายละเอียดของข้อสรุปจากการประชุมในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะนำเข้าหารือกับ 8 พรรคร่วมในที่ประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านด้วยในลำดับต่อไป” นายวิสุทธิ์กล่าว