“สุดารัตน์” ฉายภาพการเมืองไทยปี 67 ชี้นายกฯ เผชิญ 2 ความท้าทาย
“สุดารัตน์” ระดมสมองเตรียมความพร้อมการเมืองไทยปี 67 ชี้นายกฯ เผชิญ 2 ความท้าทาย “ด่านหินทางกฎหมาย-ผลสำเร็จของนโยบายที่หาเสียง” เชื่อหากนโนบายเรือธงล้มเหลวเห็นความเปลี่ยนแปลงแน่นอน พร้อมกำชับทีมไทยสร้างไทยขับเคลื่อน 4 ด้าน ตอบสนองความต้องการประชาชน
วันนี้ (2 ธ.ค.2566) ที่สุบรรณ ฮอลล์ เขตดอนเมือง พรรคไทยสร้างไทย จัดอบรมสัมมนา หัวข้อก้าวต่อไปของพรรคไทยสร้างไทย “We’re Violet เวิร์คช็อประดมสมองชาวไทยสร้างไทย” ซึ่งมีคณะผู้บริหารพรรค นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายประวัตน์ อุตตะโมช น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคไทยสร้างไทย อดีตผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย และทีมไทยสร้างไทย ร่วมประชุมอย่างคึกคัก
สำหรับการประชุมในวันนี้พรรคไทยสร้างไทย นัดพบปะพูดคุยเพื่อเตรียมการทำงาน และเตรียมความพร้อมทางการเมืองในปี2567 พร้อมระดมสมองเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงเดินหน้าสู่อนาคต รวมถึงยังจัดการเวิร์คช็อปสร้างความรู้ความเข้าใจ
โดยเฉพาะการเมืองในปัจจุบันจะต้องเน้นสร้างความรู้สึกด้านอุดมการณ์ให้มากขึ้น ทั้งเรื่องความไม่เท่าเทียม การเข้าถึงโอกาสการลดความเหลื่อมล้ำ และความซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ทางการเมืองที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เป็นแนวโน้มทางการเมืองของยุคสมัย ที่จะได้รับความไว้วางใจและคะแนนเสียงจากประชาชนมากที่สุด
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า การเมืองไทยปี 2567 อาจมีการเปลี่ยนแปลง ในฐานะฝ่ายค้านจะต้องทำงานอย่างเต็มที่ และจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะรัฐบาลอาจมีการปรับเปลี่ยนภายใน หรือเกิดความไม่แน่นอนในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเผชิญความท้าทาย จากการเดินหน้าผลักดันนโยบาย ที่ได้หาเสียงไว้ต่อประชาชน
ทั้งในมิติทางกฎหมาย ที่นโยบายเรือธง อย่าง เงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวินัยการเงินการคลัง หรือหากผ่านด่านทางกฎหมายได้ ก็ยังมีด่านของความสำเร็จที่พี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน คอยจับจ้องอยู่ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ตามเป้าหมายหรือไม่
สอดคล้องกับ นายอุดมเดช ที่มองว่าการเลือกตั้งในอนาคต จะเลือกด้วยอุดมการณ์มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามจริตของการเมืองไทยยุคใหม่ ดังนั้นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์และมีบทบาทในเรื่องดังกล่าวชัดเจน จะได้รับการตอบรับจากประชาชน รวมถึงการสร้างความน่าเชื่อถือของตัวเองให้กับประชาชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนลงคะแนนให้
สำหรับการทำงานในปี 2567 ของพรรค จะขับเคลื่อนใน 4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย เรื่องการผลักดัน นโยบาย "แซ่บ พาวเวอร์"
ด้านการช่วยเหลือคนตัวเล็ก ด้านการติดตามตรวจสอบงบประมาณ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย มีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สำคัญคือ การแก้ไขต้องมาจาก สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 100% โดยไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2