posttoday

ทนายบิ๊กโจ๊กโต้ปมใบอนุโมทนาบัตร-แฉเส้นเงินเว็บพนันโยง'นายพล ต.'

19 มีนาคม 2567

ทีมนายความโต้ปมใบอนุโมทนาบัตร ปัดบิ๊กโจ๊กใช้บัญชีม้าทำบุญ ขณะที่ 'ผู้การนำเกียรติ' แฉเส้นเงินเว็บพนันโยงนายพล ต.-ครอบครัว

ทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์และนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ แถลงข่าวปมออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ในประเด็นการเผยแพร่ใบอนุโมทนาบัตร งานกฐินที่วัดวัดศาลาปูนวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา และการซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.พร้อมพวกที่ห้องบอลรูม 3 ชั้น 7 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท 22 

(คลิ๊กชมข่าว)

นายวราชันย์ กล่าวว่า ใบอนุโมทนาบัตรที่ทำบุญจำนวน 200,000 บาทที่ปรากฏตามสื่อสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุม พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีต รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ลูกน้องคนสนิท พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ได้มีการตรวจยึดเอกสารต่างๆภายในรถซึ่งมีการยึดใบอนุโมทนาบัตรนี้ที่มีชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไว้เพื่อตรวจสอบซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏจากที่ใดมาก่อน มีแต่ พ.ต.ท.คริษฐ์ เก็บไว้ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2566 แต่ใบใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ออกปรากฏต่อสื่อมวลชนได้อย่างไร ซึ่งต้องไปหาคำตอบเรื่องนี้ 

"ใบอนุโมทนาบัตรถูกนำมาให้ข่าวไปโยงเกี่ยวกับการทำบุญอ้างว่าเป็นการทำบุญโดยใช้เงินบัญชีม้า ที่มียอดเงินตรงกัน เมื่อเรื่องดังกล่าวปรากฏขึ้้นต่อสาธารณชน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการสั่งการให้ผู้ใกล้ชิดตรวจสอบ ความเกี่ยวโยงระหว่างบัญชีที่ถูกอ้างว่าเป็นบัญชีม้ามายังใบอนุโมทนาบัตรฉบับดังกล่าว เกิดขึ้นได้อย่างไรและข้อมูลที่ผู้นำใบอนุโมทนาบัตรออกเผยแพร่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า ผู้ที่ออกเผยแพร่รู้ได้อย่างไร เมื่อข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่พนักงานสืบสวนสอบสวนรายละเอียดไม่มีทางออกสู่สาธารณชนได้ ถ้าไม่มีผู้ไม่หวังดีบางรายหยิบฉวยข้อเท็จจริงดังกล่าวส่งต่อ และนำมาผูกโยงกับรายละเอียดบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากความจริง" นายวราชันย์

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช้เงินที่ได้จากเว็บพนันซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นเงิน 13,100 บาท ซึ่งการซื้อตั๋วเครื่องบินเป็นการซื้อตั๋วโดย พ.ต.ท.คริษฐ์ พร้อมครอบครัว ซึ่งมีหลักฐานการพูดคุยระหว่าง พ.ต.ท.คริษฐ์ กับตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินชัดเจนไม่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด

ส่วนกรณีการออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในคดีสมคบกันฟอกเงิน และ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน กรณีพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ ในท้องที่ สน.เตาปูน นายณัฐวิชช์ ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการเงินที่เข้ามาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งในเครือข่ายเว็บพนันเชื่อมโยงไปยังตำรวจอีกหลายกลุ่มกว่า 30 คน แต่กลับไม่มีการกล่าวหาบุคคลใด ซึ่งคดีนี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีเว็บพนันของเครือข่ายมินนี่ ที่อยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ดังนั้นพนักงานสอบสวน ก็ควรส่งเรื่องนี้ให้ ป.ป.ช.พิจารณาด้วย

ทนายความระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ร้องขอเปลี่ยนทีมพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้ง เพราะกังวลว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ส่วนกรณีหมายเรียกที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่มสองห้อง ระบุให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 21 มี.ค.67 ยังไม่ยืนยันว่าจะไปพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัดหรือไม่ แต่ยังยืนยันว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจออกหมายเรียก

ขณะพล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีต ผบก.ศฝร.บช.น.เผยว่า ในฐานะผู้ต้องหาของคดีมินนี่ ขอชี้แจงถึงความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินเว็บ BNK MASTER ซึ่งพบว่า ในแถวหนึ่งพบความเชื่อมโยงไปยังบัญชีของ นายพล “ต.” ภรรยา “ก.” พี่สาว “จ.” พี่ชาย “ช.” 

สำหรับเหตุที่ตนตกเป็นผู้ต้องหา สืบเนื่องมาจากการที่ตนได้ทำสำนวนคดีเป้รักผู้การ ใน จ.ชลบุรี เรียกเงินเว็บพนันกว่า 100 ล้านบาท การสืบสวนในครั้งนั้นพบว่ามี พ.ต.อ.“ด.” มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิดกฎหมาย และยังมีธุรกรรมทางการเงินไปยังบุคคลอื่นอีกหลายราย โดยจำนวนหนึ่งพบเป็นตำรวจหญิง 2 นาย ที่มีความสัมพันธ์กับตำรวจระดับสูง รวมถึงการทำคดีกำนันนก ซึ่งสาเหตุที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะและโอกาส ตอนนี้ไม่กังวลแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมน้อมรับ

ส่วนประเด็น พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้บัญชีม้าทำธุรกรรมการเงินหากเป็นบัญชีม้าจริง เข้ามาก็ต้องถอนเงินสดออกหมดไม่ให้เห็นเส้นทาง แต่กรณีนี้มีเส้นทางการเงินให้เห็นทั้งหมด และย้ำว่าไม่ได้รู้จักกับ น.ส.มินนี่ จึงจะไปเรียกรับเงินได้อย่างไร สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผบ.ตร.ก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์ เพราะในตนได้รับโอนเงินจาก พ.ต.ท.คริษฐ์ เพียง 9 ครั้งก็ต้องเป็นผู้ต้องหา แต่ในคดียังมีตำรวจบางนายที่รับโอนเงินมากกว่า แต่กลับไม่ตกเป็นผู้ต้องหา

ต่อมาในช่วงบ่าย ทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบหลักฐานเส้นทางการเงินที่มีการแถลงรวมถึงรายละเอียดที่พลตำรวจตรีนำเกียรติ ในฐานะผู้ต้องหาคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ได้ระบุภายหลังการแถลงข่าว รวมถึงให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบถึงอำนาจการสอบสวนของคดีด้วย.