กกต.ลงดาบ'นครชัย'อดีตสส.ก้าวไกลย้อนหลังต้องชดใช้ค่าจัดเลือกตั้ง
กกต.เอาผิดย้อนหลังอดีตสส.ระยองเขต3ก้าวไกล "นครชัย ขุนณรงค์“ ฐานรู้ไม่มีสิทธิ์แต่ยังสมัครรับเลือกตั้ง ยื่นศาลรธน. เพิกถอนสิทธิ์ดำเนินคดีอาญา เรียกชดใช้ค่าจัดเลือกตั้ง
เว็บไซต์สำนักงาน กกต. เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. สั่งเอาผิดย้อนหลัง นายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล โดย กกต.เห็นว่า ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า นายนครชัย เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำ โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี คดีหมายเลขดำที่ 6962/2542คดีหมายเลขแดงที่ 6766/2542 วันที่ 24 พ.ย. 42
แม้ต่อมาจะมี พ.ร.บ.ล้างมลทิน ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 มีผลใช้บังคับ แต่การล้างมลทินคือการลบล้างโทษว่ามิเคยถูกลงโทษจำคุกในความผิดนั้นๆ เท่านั้น
ส่วนพฤติกรรม หรือการกระทำความผิด ซึ่งศาลพิพากษาว่าได้กระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่งยังคงอยู่ ไม่มีผลเป็นการลบล้างการกระทำความผิดและลบล้างคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ามีการกระทำความผิดนั้น ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 24/2564
ข้ออ้างของนายนครชัย ที่ว่า ตนได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน ในครานั้นจึงไม่อาจรับฟังได้ นายนครชัยจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 42 (12) อีกทั้ง นายนครชัย ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งของตนเอง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อ นายนครชัย ได้ลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ระยอง ลงวันที่ 3 เม.ย. 66 รับรองว่าตนเองมีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. โดยรู้อยู่แล้วว่าเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดดังกล่าวของศาลจังหวัดชลบุรี
กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายนครชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแล้วปกปิด หรือไม่แจ้งข้อความจริงนั้น และให้ถือว่าการเลือกตั้ง สส.ระยอง เขต3 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายนครชัย ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 54 วรรคสอง และมาตรา 151 จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายนครชัย สิ้นสุดลงตั้งแต่วันเลือกตั้ง และมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายนครชัย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 54 และให้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามระเบียบกกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 86 เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายนครชัย ตาม มาตรา151 ของกฎหมายเดียวกัน และกรณีการดำเนินการเรียกค่าเสียหาย ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่าง อันเนื่องมาจากการกระทำ ความผิดของนายนครชัย
ทั้งนี้ นายนครชัย ได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 66 แต่หลัง กกต. ประกาศรับรอง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยขณะนั้น ออกมาเปิดเผยว่านายนครชัย เคยต้องโทษจำคุก ถือว่าขาดคุณสมบัติในการเป็น สส. ทำให้ในวันที่ 3 ส.ค. 66 นายนครชัยได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น สส. และ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 66 โดย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จากพรรคก้าวไกล เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง