'บิ๊กต่าย'ตอบปมปลดป้ายชื่อ'บิ๊กโจ๊ก'ไม่เอาสมองกับเวลาทำเรื่องนี้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รักษาราชการผบ.ตร.ย้ำสั่ง บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อนทำตามระเบียบ โต้ปมกระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร. ชี้การเป็นผู้นำองค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าอยากเป็นหรือไม่ แต่อยู่ที่ก.ตร.ใช้อำนาจการพิจารณาตามข้อกฎหมาย
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบ.ตร.กล่าวว่าการสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการ ได้พิจารณาตามกฎหมาย กฎ ก.ร.ตร.และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดในการพิจารณาข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งคดี และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ที่ถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรงทุกกรณี ไม่จำเป็นต้องเป็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่จะมีสิทธิที่ร้องเรียนต่อ ก.ร.ตร. เชื่อว่าเป็นสิทธิของทุกคนที่จะฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นรักษาการ ผบ.ตร. แต่มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับ ผบ.ตร. และมีหน้าที่ที่จะทำให้ตำรวจปรับทัศนคติ ค่านิยมมาสู่ความเป็นตำรวจอาชีพ อีกทั้งไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ใครจะมองยังไงก็ว่ากัน แต่ไม่คิดที่จะขัดแย้งและให้เกียรติกับทุกคนเหมือนเดิม ส่วนเรื่องการปลดป้ายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เห็นว่ามีอะไรต้องทำมากกว่าไปปลดป้ายชื่อคนอื่น
"ผมไม่เอาสมองกับเวลามาทำเรื่องอย่างนี้หรอก คำพูดที่เคยให้ไว้ที่หน้าห้องประชุมศรียานนท์ว่า ให้เกียรติทั้ง 2 ท่าน สัจวาจาเป็นเช่นไร คำว่าให้เกียรติก็ยังมี ในวงการตำรวจต้องให้เกียรติเสมอ เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ากระเหี้ยนกระหือรือจะเป็นการเป็นผู้นำองค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าอยากเป็นหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ก.ตร. การใช้อำนาจและการพิจารณาตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และแม้จะถูกกล่าวหาในเรื่องร้ายแรง ก็เป็นสิทธิที่คิดได้อยู่แล้วไม่จำกัดความคิดของใคร"