"บิ๊กโจ๊ก"โอดชีวิตถูกรังแกเดินหน้าฟ้องนายกฯ-ก.ตร.ทั้งคณะ
นายกฯเศรษฐายังไม่นำคำสั่งให้"บิ๊กโจ๊ก"ออกจากราชการไว้ก่อนขึ้นทูลเกล้าฯ รอมติก.พ.ค.ตร.คาด30วันรู้ผล ขณะพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องนายกฯ-ก.ตร.ทั้งคณะ ยอมรับยังลุ้นมติก.พ.ค.ตร.หากผลเป็นลบเดินหน้าฟ้องศาลปกครองต่อ
กรณีที่ประชุมก.ตร.ครั้งที่ 5/2567ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีมติ12-0เสียงเห็นชอบคำสั่งพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน
นายเศรษฐา เปิดเผยท่าทีล่าสุดว่า เราไตร่ตรองดีแล้วและปฏิบัติตามยึดหลักกฎหมาย และก็ให้ความเป็นธรรมกับ พล.ต อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) อีกประมาณ 30 วัน ก็น่าจะตัดสินได้แล้ว ระหว่างการประชุมก.ตร.มีการหารือกันแล้วเรื่องการทูลเกล้าฯคงพักไปก่อน
ขณะที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่ามติก.ตร.อาจเป็นเพียงการรับทราบ จึงต้องรอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ก.พ.ค.ตร.อีกทั้งคณะอนุกรรมการวินัย ก.ตร.ก็ล้วนแต่เป็นตำรวจ อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีใครกล้าลงมติว่าผู้บังคับบัญชาผิด แต่หากกผลวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. ออกมาเป็นลบก็จะไปร้องต่อศาลปกครองต่อ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การที่นายกฯเศรษฐาไปนั่งเป็นประธาน ก.ตร.แต่กลับไม่คัดค้านในเมื่อคำสั่งไม่ถูกต้องแล้วยังไปรับรองว่าคำสั่งถูกต้อง อย่างนี้จึงเรียกว่าความผิดสำเร็จดังนั้นก็จะต้องดำเนินคดี สัปดาห์หน้าเตรียมจะฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ก.ตร. ทั้งคณะ และยืนยันว่าไม่ได้ท้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ไปเป็นศัตรูแต่ มองว่าเป็นเรื่องถูกผิด เป็นเรื่องความยุติธรรม
"ผมไม่ได้ต้องการทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา แต่ขอถามกลับว่าทำไมถึงถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะว่าผมมีอายุราชการเหลือหลายปี เป็นอาวุโสลำดับที่ 1ทำงานตรงใจประชาชน ประชาชนชอบหากอายุราชการเหลือแค่ 1 ปี ก็คงไม่เป็นปัญหา”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว