posttoday

"บิ๊กโจ๊ก"ยันฟ้อง"นายกฯเศรษฐา"แน่ขอดูรายละเอียดเพื่อความรอบคอบ

01 กรกฎาคม 2567

"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" เชื่อมั่นก.พ.ค.ตร.ให้ความเป็นธรรม ปมอุทธรณ์คำสั่ง "ให้ออกจากราชการไว้ก่อน"ยืนยันฟ้องนายกเศรษฐาแน่แต่ขอศึกษารายละเอียดเพื่อความรอบคอบ รวมถึงการฟ้อง ก.ตร.มีมติชี้ผิดถูกจริงหรือไม่หากไม่ชี้ก็ไม่ผิด

เมื่อวันที่ 1ก.ค.2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังเดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดไต่สวนมูลฟ้องคดี หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คดียื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติไว้ทั้งหมด 3กรรม 

ไม่มีสงครามไหนฆ่ากันจนตาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้มาศาลตามนัดการไต่สวนซึ่งเป็นคดีหมิ่นประมาทอีกกรรมที่ยื่นฟ้องเอาไว้ก่อนแล้วได้ทราบจากทนายของตัวเองว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ส่งทนายความมาขอเลื่อนและตัวเองไม่ได้คัดค้านเพราะต้องการให้ศาลไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรม ต้องทำทุกอย่างแบบเปิดเผยง่ายๆ ไม่มีอะไรหนักใจ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า หากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ต้องมาเจอกันกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติที่ศาล แล้วจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า ระบบของศาลมีการนัดไกล่เกลี่ยอยู่แล้ว และวันนี้ก็ยังไม่ได้พบใคร การไกล่เกลี่ยจึงยังไม่เกิดขึ้น วันนี้จึงต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมายก่อน ศาลนัดก็ต้องมา ส่วนจะไกล่เกลี่ยได้หรือไม่ก็คงต้องไปดู เพราะทุกอย่างต้องนำมาสู่การพูดคุยกันเจรจากัน “มันไม่มีสงครามไหนที่จะรบกันจนฆ่ากันตายหรอก”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ออก"รายการคมชัดลึก"ผ่าน เนชั่นทีวี22 ได้พูดคุยกับพลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผบช.น.ก็มีความเคารพในความเป็นครูบาอาจารย์ ไม่ได้ก้าวร้าว แต่เนื่องจากมีการกระทำที่กระทบสิทธิก็ต้องขออนุญาตยื่นฟ้อง ส่วนจะพูดคุยกันอย่างไรก็คงค่อยไปคุยกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ชี้แจงสาเหตุที่เดินหน้าฟ้องร้องบุคคลเกี่ยวข้องกรณีคำสั่ง"ให้ออกจากราชการไว้ก่อน"โดยไม่ได้รอผลการตรวจสอบของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)ว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าได้ถูกกระทำมานานหากไม่ออกมาพูดบ้างสังคมจะเกิดความสับสนและเชื่อว่า การที่ออกมาพูดและนักวิชาการที่เป็นกลางออกมาพูดก็เป็นประโยชน์ทำให้สังคมไม่สับสน ทำให้ประชาชนรู้ว่าการให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบหรือไม่ชอบอย่างไร รู้ว่า กฎหมายอยู่ตรงไหนเพราะกฎหมายมีหลักเดียว 

เชื่อมั่นก.พ.ค.ตร.ให้ความเป็นธรรม
    
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า วันนี้ยังเชื่อมั่นในความยุติธรรมของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพราะกรรมการแต่ล่ะท่านเกษียณแล้ว ท่านทำงานไม่ได้หวังอะไรแล้ว และท่านตั้งใจมาทำงานเพื่อชื่อเสียงของตัวท่าน และรักษาชื่อเสียง รักษาคุณธรรมขององค์กร และต้องการทำให้สังคมดี และทำให้ความยุติธรรมมีจริง
อย่างไรก็ตามคงตอบไม่ได้ว่าเสียงชี้ขาดของ ก.พ.ค.ตร. จะได้เป็นเอกฉันท์ แต่การพิจารณาคงจะไม่ได้เลื่อนไปจากกำหนดในเดือนสิงหาคม2567

ส่วนการยื่นฟ้อง คณะกรรมการ ก.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างดูรายละเอียด ถ้าเป็นความผิดก็ต้องดำเนินการ ถ้าไม่เป็นความผิดก็ไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งต้องดูว่า คณะกรรมการ ก.ตร.ผิดส่วนไหน เพราะเท่าที่ทราบจากหลายคนไม่มีมติ 12ต่อ 0แต่ข่าวบอกว่ามีมติ จึงต้องดูให้ชัดก่อน และเลขา กตร. ก็ออกมาบอกว่า ไม่มีมติ แต่การพิจารณาของอนุวินัย เป็นการพิจารณาตามอำนาจ แต่การจะชี้ผิดถูกเป็นเรื่องของ ก.พ.ค.ตร. ดังนั้นถ้าบอกไม่มีมติแสดงว่าไม่ได้ชี้ผิดชี้ถูกฟังแล้วก็ยังสับสน จึงต้องขอตรวจสอบก่อน ถ้าไม่ได้ชี้ผิดชี้ถูกก็ถือว่าไม่ได้ทำผิด

ยันฟ้องนายกฯเศรษฐาแต่ต้องรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยันว่า ยังมีการยื่นฟ้องนายกฯเศรษฐา ทวีสิน แน่นอน แต่ก็ต้องขอดูรายละเอียดอีกส่วนว่า การส่งตัวเองกลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติรู้หรือไม่ แต่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีส่งตนเองกลับมาโดยท่านไม่รู้ว่าการให้ยศนายพลออกต้องเสนอโปรดเกล้าฯ พอมาทราบรายละเอียดเลยไปกันใหญ่

ดังนั้น ต้องพิจารณาว่านายกรัฐมนตรีรู้หรือไม่รู้ เพราะถ้ารู้ก็จะกลายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งต้องพิสูจน์ทราบและดูให้รอบคอบก่อน ทั้งนี้การจะไปฟ้องใครก็จะต้องไม่ไปริดรอนสิทธิของผู้อื่นเพราะจะถูกฟ้องกลับ
  
"ส่วนจะฟ้องวันไหนจะแจ้งวันอีกครั้ง เพราะการฟ้องใครบ้างต้องทำเอกสารให้รอบคอบ เพราะหากไปรีบเร่งมากมันจะผิด เหมือนกรณีของการส่งกลับแล้วให้ตนเองออกภายในวันเดียว ดังนั้นวันนี้ผมมีเวลา มีสมาธิไม่ต้องเร่งรีบแต่อยู่ในกรอบเวลาภายในสัปดาห์นี้"
  
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวอารมณ์เย็นลงอยู่แล้ว แต่เป็นการใช้สิทธิตามปกติ และยืนยันว่าเรื่องอารมณ์กับเรื่องการทำงานไม่เกี่ยวกัน และเรื่องการฟ้องคดีต่างๆทำด้วยอารมณ์ไม่ได้ เพราะถ้าทำด้วยอารมณ์เราจะเดือดร้อนเอง และการมาฟ้องร้องของตนเองก็ทำให้กูรูต่างๆเบาลง และระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่หากไม่ออกมาก็คงพูดกันทั้งวัน ส่วนจะห้องกูรูอีกหรือไม่ต้องดูไปก่อนว่าท่านไหนมีความผิดบ้าง ถ้ามีก็ต้องใช้สิทธิ เพื่อให้สังคมได้เห็นว่าอะไรกระทบสิทธิต้องออกมาและให้ประชาชนกล้าออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง 

ส่วนที่ถูกมองว่าถ้าไล่ฟ้องทั้งหมดแล้ววันที่ได้กลับไปเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ใครจะเลือก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  มองว่า การจะเลือกหรือไม่เลือกต้องถูกต้องและเป็นธรรม ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นไม่ได้เป็นปัญหาเพราะเป็นอะไรก็ได้