posttoday

ย้อนรอย เหตุการณ์สำคัญ การเมืองไทยปี พ.ศ. 2567

01 มกราคม 2568

ย้อนรอย 7 เหตุการณ์สำคัญ ! ทาง "การเมือง" ประเทศไทย ตลอด ปี พ.ศ. 2567 "ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง" ยุบพรรค - เปลี่ยนนายกฯ

ปี 2567 ถือเป็นปีที่สำคัญต่อการเมืองไทย มีเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนหลายครั้งซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม รายละเอียดของแต่ละประเด็นสำคัญมีดังนี้

 

1. การยุบพรรคก้าวไกล

สาเหตุ

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลกระทำการขัดต่อมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าพรรคมีการนำเสนอแนวนโยบายที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงการสนับสนุนให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112

 

ผลกระทบ

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ส่งผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคกว่า 100 คน ต้องย้ายไปพรรคอื่นภายใน 30 วัน ส่วน แกนนำพรรค เช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และชัยธวัช ตุลาธน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี

 

ประชาชนหลายกลุ่มออกมาชุมนุมแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพและความพยายามปฏิรูปการเมือง

 

การตั้งพรรคใหม่

อดีตสมาชิกก้าวไกลบางส่วนได้ร่วมกันตั้งพรรคใหม่ในชื่อ “พรรคประชาชน” โดยยังคงยึดมั่นในแนวนโยบายเดิม

 

2.การเสียชีวิตของ บุ้ง ทะลุวัง 

สาเหตุ

น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 28 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 หลังอดอาหารประท้วงเป็นเวลา 110 วัน ขณะถูกคุมขังในเรือนจำ โดย บุ้งถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2567 หลังศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันในคดีมาตรา 112 

 

ในช่วงเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 บุ้งมีอาการหัวใจหยุดเต้น แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทำการปั๊มหัวใจและส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ และเสียชีวิตในเวลา 11.22 น. 

 

ผลกระทบ

การเสียชีวิตของบุ้งได้รับความสนใจจากสังคมและองค์กรสิทธิมนุษยชน โดยมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและการคืนสิทธิประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมือง 

3. การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี

 

เศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐาเริ่มต้นปีในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับมือกับเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาความเหลื่อมล้ำ

 

เดือนกรกฎาคม ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเปิดเผยทรัพย์สินของเศรษฐามีความผิดพลาดและเข้าข่ายจงใจปกปิดข้อมูล ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง

 

 

แพทองธาร ชินวัตร

แพทองธาร ชินวัตร ได้รับการเสนอชื่อและโหวตจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เธอกลายเป็นผู้นำหญิงคนแรกของไทยในรอบหลายทศวรรษ

 

แนวนโยบายของแพทองธารเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิรูปกฎหมาย

 

4. ความล้มเหลวของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ปัญหาความล่าช้า

แม้รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 โดยเน้นการลดอำนาจของวุฒิสภาและการเพิ่มบทบาทประชาชน แต่กระบวนการนี้ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยม

 

การประชุมสภาหลายครั้งเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากขาดองค์ประชุม

 

5. การแต่งตั้งวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดใหม่

 

วิธีการแต่งตั้ง

ส.ว. ชุดใหม่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการสรรหาที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดิม ส่งผลให้เกิดข้อครหาว่าขาดความยึดโยงกับประชาชน

 

 

บทบาทของ ส.ว.

ส.ว. ยังคงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางการเมือง เช่น การร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำทางการเมือง

 

7. ความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ปัญหาหนี้สิน

หนี้ครัวเรือนของประชาชนเพิ่มสูงขึ้นจนเกิน 90% ของ GDP ส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ

 

การลงทุนจากต่างประเทศลดลงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง

 

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โครงการแจกเงินดิจิทัลผ่านบล็อกเชนมูลค่า 10,000 บาทต่อคน แม้ช่วยกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้น แต่ถูกวิจารณ์ว่าใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าและสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มเติม

 

7. การเมืองระหว่างประเทศ

 

ไทยพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์กับจีนและสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันในประเด็นสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย

 

การประชุมอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้เป็นเวทีสำคัญในการแสดงบทบาทของไทยในระดับภูมิภาค