Blockchain พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยภาครัฐลดเวลาดำเนินงาน
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้ การใช้ Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่สามารถพัฒนาเป็นโครงสร้างพื้นฐานได้ ลดระยะเวลาดำเนินเอกสารให้เสร็จได้ภายใน 1 ชั่วโมง
สื่อเครือเนชั่น นำโดย สปริงนิวส์ได้จัดงานสัมมนา “Spring Digital Life Forum 2023 : นวัตกรรม เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนโลก” ในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 12.00-16.00 น. ณ โรงภาพยนตร์ Screen X ชั้น 6 Paragon Cineplex สยามพารากอน เพื่อเปิดมุมมองความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทย
ในช่วง Special Talk : นวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ที่เปลี่ยนประเทศไทย ให้ไม่เหมือนเดิม
คุณสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า อินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วน ทั้งในทางอุตสาหกรรม ภาคบริการ และภาคการเงินรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องในการให้บริการของภาครัฐ
เริ่มต้นจากการที่เรามีเทคโนโลยี เรามีโครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ตเองก็เป็นเหมือนหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงของบริการต่างๆมากมายและก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมต่างๆซึ่งช่วยให้เรามีบริการที่หลากหลาย มีความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
ในภาคการเงินเอง เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเราเรียกว่า ‘โครงสร้างพื้นฐานพร้อมเพย์’ ที่เอื้อให้เกิดบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็วซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและพฤติกรรมในเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงิน
หลังจากมีระบบพร้อมเพย์เราสามารถโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ย่อโลกการเงินลงมาอยู่ในโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้สวัสดิการภาครัฐจะมีการส่งเงินสวัสดิการให้กับประชาชน ซึ่งเดิมกว่าจะถึงมือประชาชนต้องใช้เวลาหลายวัน แต่เมื่อมีระบบพร้อมเพย์ที่ภาครัฐนำมาใช้ประโยชน์ก็สามารถส่งสวัสดิการทางการเงินตรงไปยังประชาชนที่มีความต้องการได้อย่างตรงจุด
ทางภาครัฐเองมีการนำไปใช้ในเรื่องของการคืนภาษีบุคคลธรรมดา ผู้ที่มาใช้ระบบนี้ก็สามารถคืนภาษีได้เร็วขึ้น เรามีการพัฒนา e-wallet ขึ้นมาเพื่อใช้บนพร้อมเพย์ แต่ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆคือการพัฒนา QR Code ซึ่งเราเป็น QR Code มาตรฐานที่ผู้ให้บริการสามารถจะใช้ร่วมกันได้
โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆจะทำให้เกิดการต่อยอดได้อย่างหลากหลาย การใช้ blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถจะพัฒนาเป็นโครงสร้างพื้นฐานได้ ทางภาคการเงินเองก็ได้มีการพัฒนาตัว blockchain ขึ้นมา และมีการทดลองใช้งานจริงแล้ว คือการใช้ออกหนังสือค้ำประกัน ที่ช่วยลดระยะเวลาจากเดิมประมาณ 3-5 วันในการออกเอกสาร แต่กระบวนการทั้งหมดสามารถเสร็จภายในไม่เกิน 1 ชั่วโมง บางรายการสามารถเสร็จได้ภายในไม่เกิน 1 นาที รวมถึงลดข้อผิดพลาดจากการกรอกเอกสาร และลดการใช้กระดาษลง