posttoday

James Bond X โฆษณาแฝงในวงการหนัง: ลู่ทางดันยอดขายในโลกยุคใหม่

27 ตุลาคม 2565

ในปัจจุบันการทำการตลาดแบบ Product Placement ในวงการหนังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นสื่ออันดับต้นๆ ที่คนเลือกจะเข้าถึง และโอกาสที่คนจะเห็นสินค้าในหนังก็มีมากขึ้น หากมองในระยะยาว การสร้างแบรนด์ด้วยวิธีนี้ก็ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นหนึ่งในความสำคัญเบอร์ต้นๆของเหล่าสตาร์ทอัพรวมถึงนักธุรกิจหลายๆคน ซึ่งวิธีผลักดันสินค้าในปัจจุบันก็มีมากมายหลายวิธี แต่สิ่งที่น่าจับตามองและอาจจะมาเหนืออยู่หน่อยๆในยุคนี้คือการทำ “Product Placement” ในภาพยนตร์ หรือจะเรียกว่าเป็นการโฆษณาแอบวางสินค้าเข้าไปแบบเนียนๆก็ไม่ผิดนัก

 

หากเราสังเกตดีๆ อาจเคยเห็นฉากที่ตัวเอกของเรื่องเลือกใส่รองเท้าแบรนด์หรู หรือสมาร์ทโฟนที่ใช้ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันแทบทั้งเรื่อง ฯลฯ นี่แหละคือวิธีในการวางสินค้าเนียนๆของแต่ละแบรนด์ ซึ่งใครจะบอกว่าไม่เวิร์คก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก ในเมื่อภาพยนตร์เป็นสื่อที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่าย อัตราที่คนจะเห็นสินค้าก็เพิ่มขึ้น มิหนำซ้ำถ้าเลือกจับกระแสภาพยนตร์ได้ถูกจุด ดูไม่ยัดเยียดผู้ชมจนเกินไป จะยิ่งทำให้ยอดขายพุ่งทยานแบบถล่มทลาย

James Bond X โฆษณาแฝงในวงการหนัง: ลู่ทางดันยอดขายในโลกยุคใหม่

James Bond กับโฆษณาแฝงในภาพยนตร์

จากงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่ใน ใน Medical Journal of Australia ว่าด้วยเรื่องการศึกษาพฤติกรรมการดื่มของพยัคฆ์ร้าย 007 ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา พบว่ายอดสายลับรายนี้มีพฤติกรรมติดแอลกอฮอล์อย่างเห็นได้ชัด แต่นอกจากพฤติกรรมของตัวละครแล้ว งานวิจัยชิ้นนี้ยังศึกษาไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่า ‘แอบขายแบบเนียนๆ’ ที่ปรากฎในภาพยนตร์แฟรนไชส์หนังสายลับเรื่องนี้

 

ในช่วงแรกที่ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ปรากฏสู่สายตาสาธารณะชนในช่วงปี 1960 มีการวาง Product Placement หรือผลิตภัณฑ์แฝงทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน โดยไม่มีการพาดพิงถึงแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย แต่ในช่วงปี 2010 ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมีการวางโฆษณาแฝงถึง 30 ตัวด้วยกัน! ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประเภทแอลกอฮอล์ไปจนถึงรถยนต์

James Bond X โฆษณาแฝงในวงการหนัง: ลู่ทางดันยอดขายในโลกยุคใหม่

สัดส่วนโฆษณาแฝงในหนัง James Bond

งานวิจัยได้เผยสัดส่วนโฆษณาแฝงของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ปรากฏในภาพยนตร์แฟรนไชส์สายลับเจมส์ บอนด์ 007 โดยนับตั้งแต่ปี 1962 - 2015

ผลิตภัณฑ์ประเภทแอลกอฮอล์ที่โฆษณาแฝง

ปี 1960s                 3.3%

ปี 1970s                 12%

ปี 1980s                 16%

ปี 1990s                 21%

ปี 2000s                 13%

ปี 2010s                 15%

 

รวมทุกผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาแฝง

ปี 1960s                 5            ชิ้น

ปี 1970s                 7            ชิ้น

ปี 1980s                 8            ชิ้น

ปี 1990s                11           ชิ้น

ปี 2000s                21           ชิ้น

ปี 2010s                30           ชิ้น

 

จะเห็นได้ว่า Product Placement มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการจะผลักดันสินค้าและยอดขายด้วยวิธีวางเนียนๆในภาพยนตร์แบบนี้ ใช่ว่าจะเวิร์คทุกเรื่องเสมอไป เพราะไม่ใช่ว่าหนังทุกเรื่องที่เข้าฉายจะดังเป็นพลุแตกหรือเป็นที่รู้จัก การประเมินศักยภาพของภาพยนตร์ไว้ก่อนถือเป็นภาระที่ทางแบรนด์ต้องประเมิน และแลกมากด้วยค่าใช้จ่ายแบบสูงลิ่ว

 

นอกจากสินค้าประเภทแอลกอฮอล์ในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 007 แล้ว อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่านำมาศึกษาคือรถคู่กายอย่าง ‘Aston Martin’ ที่กลายมาเป็นภาพจำระดับตำนาน แม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีในปี 1995 รถคู่ใจของบอนด์จะเป็นแบรนด์หรูอย่าง BMW แต่หลังจากในปี 2002 ที่ Aston Martin วางเดิมพันทับด้วยมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เสนอให้แบรนด์ตัวเองเข้ามาใช้ในเรื่องแทน เราจึงได้เห็นรถยนต์แบรนด์นี้อยู่คู่กับ พยัคฆ์ร้าย 007 เสมอมา

James Bond X โฆษณาแฝงในวงการหนัง: ลู่ทางดันยอดขายในโลกยุคใหม่

Case Study ที่ควรศึกษา

หากจะถามว่าแล้วมีภาพยนตร์เรื่องใดบ้าง ที่เมื่อแบรนด์สินค้าตัดสินใจลงทุนกับ Product Placement แล้วออกมาเวิร์กสุดๆ? มาลองดูกันที่เรื่องแรกดีกว่ากับภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปี 1996 ‘Top Gun’  ในภาพยนตร์เรื่องนี้ทอม ครูซได้รับบทเป็นนักแสดงนำของเรื่อง แถมยังสวมแว่นตา Ray-Ban Aviator แทบทั้งเรื่อง ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ยอดขายแว่นรุ่นนี้พุ่งทะยานถึง40% ภายใน 7 เดือน!

James Bond X โฆษณาแฝงในวงการหนัง: ลู่ทางดันยอดขายในโลกยุคใหม่ หรืออีกตัวอย่างจากฝีมือการกำกับของ สตีเวน สปีลเบิร์ก กับภาพยนตร์เรื่อง ‘E.T.’ ที่แบรนด์ขนมอย่าง Reese’s Pieces ยอมลงทุนกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อให้สินค้าของตัวเองปรากฎในหนังเรื่องนี้ ซึ่งข่าวดีคือหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ยอดขายของ Reese’s Pieces ถีบตัวสูงขึ้นถึง 70-80% และยังกลายมาเป็นขนมที่เด็กๆชื่นชอบเป็นอย่างมากอีกด้วย

 

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.statista.com/chart/16434/james-bond-product-placements/

https://www.mja.com.au/system/files/issues/209_11/10.5694mja18.00947.pdf