ร่วมลุ้นตัวแทนบาร์เทนเดอร์ไทยไปแข่ง Diageo Reserve World Class
Diageo Reserve World Class (ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส) คือการแแข่งขันระดับสากลที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ทั่วโลกใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติสักครั้งในชีวิต
Diageo Reserve World Class (ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส) คือการแแข่งขันระดับสากลที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ทั่วโลกใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติสักครั้งในชีวิต เพราะเป็นโปรแกรมอบรมและการแข่งขันมิกโซโลจิสต์ที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุด ซึ่งให้ทั้งความรู้และแรงบันดาลใจแก่บาร์เทนเดอร์มาแล้วกว่า 250,000 คน ใน 60 ประเทศทั่วโลก
แต่ก่อนจะไปถึงเวทีนั้น บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) ต้องจัดการแข่งขันเฟ้นหาบาร์เทนเดอร์สุดยอดฝีมือตัวแทนประเทศไทยในงาน ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส 2018 "ไทยแลนด์ ไฟนอล" (DIAGEO Reserve World Class 2018 "Thailand Final") ปีนี้จะจัดในเดือนเมษายน มีบาร์เทนเดอร์น่าจับตามอง 5 คน
คนแรก ธนกฤช เสรีศิริขจร จาก Sri Trat Restaurant & Bar กรุงเทพฯ สไตล์ค็อกเทลที่เขาถนัดมากที่สุดคือ Spirit-Forward Cocktail "ส่วนตัวผมชอบการผสมผสานของรสชาติมาก เหมือนจินตนาการว่าถ้าเอาสิ่งนั้นกับสิ่งนี้มารวมกันจะเข้ากันได้ไหม หรือควรจะเอาตัวไหนมาเป็นตัวเชื่อมของรสชาติ หรือตัวไหนจะสามารถสร้างความซับซ้อนให้กับเครื่องดื่มแก้วนี้ได้ นี่คือเสน่ห์ของการทำเครื่องดื่มครับ"
คนที่สอง เดนนิส เทอร์เนอร์ จาก Sooth Barเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ลูกครึ่งไทย-เยอรมันที่จะเข้าแข่งขันครั้งนี้้เป็นครั้งแรก "ส่วนใหญ่แรงบันดาลใจในแต่ละแก้วก็มักจะมาจากสิ่งรอบตัว อย่างความเป็นชาวเกาะก็สามารถนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มของผมได้ครับ"
คนที่สาม ทศพล อภิวัฒนสวี จาก DIBUKA Café & Restaurant ภูเก็ต เรียนจบด้านอาหารและเครื่องดื่มจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มาโดยตรง "การสร้างสรรค์เครื่องดื่มในแต่ละแก้วของผมจะเริ่มจากการสังเกตบุคลิกภาพของลูกค้าเป็นอันดับแรก รวมถึงสอบถามลูกค้าว่าชอบรสชาติแบบไหนหรือชอบผลไม้อะไร ก่อนจะทำออกมาให้ถูกใจลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด"
คนที่สี่ พิชญพงศ์ จูงกลาง จาก The Bamboo Bar โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ จากเด็กเรียนไม่เก่ง มาถึงการค้นพบตัวเองจากการเป็นบาร์เทนเดอร์ และการควงขวด ทำได้ดีจนออกงานอีเว้นท์หลายงานแล้ว "เครื่องดื่มที่ผมถนัดมากที่สุดคือแนวทวิสต์ โดยนำคลาสสิกค็อกเทลมาปรับให้เป็นเครื่องดื่มที่ยังคงความคลาสสิกอยู่แต่รสชาติ กลิ่น และบางสิ่งบางอย่างตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น"
คนสุดท้าย เดชศักดิ์ดา เทียนทอง จาก Vesper Bar กรุงเทพฯ น้องเล็กสุดในจำนวนทั้งหมด แต่ผ่านงานบาร์เทนเดอร์มาแล้ว 2 ปี ชอบพูดคุย ชอบเข้าหาคน เหมาะกับอาชีพบาร์เทนเดอร์ "ผมมองว่าศาสตร์ของการเป็นบาร์เทนเดอร์กว้างมาก อย่างเวลากินข้าว ขนมหวาน หรือเห็นนั่นเห็นนี่ ก็สามารถจุดไอเดียวัตถุดิบใหม่ๆ ให้เราได้"
ร่วมลุ้นกันว่าหนึ่งในห้าคนนี้ ใครจะได้ไปร่วมแข่งขัน ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส รอบชิงชนะเลิศที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในเดือนสิงหาคมนี้
5 บาร์เทนเดอร์ประชันฝีมือชิงไปแข่งเวทีระดับโลก
"ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่" เผยโฉม 5 บาร์เทนเดอร์ดาวรุ่งที่น่าจับตามองจาก 5 บาร์ชื่อดังของไทย ก่อนการแข่งขันสุดยอดบาร์เทนเดอร์อันทรงเกียรติที่สุดของประเทศไทย ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส 2018 "ไทยแลนด์ ไฟนอล" (DIAGEO Reserve World Class 2018 "Thailand Final")
เวทีในฝันของบาร์เทนเดอร์ทั่วโลก
บรรดารายการแข่งขันระดับสากลที่เหล่าบาร์เทนเดอร์ทั่วโลกใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมเพื่อเป็นเกียรติสักครั้งในชีวิต หนึ่งในนั้นคือดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส (DIAGEO Reserve World Class) เพราะเป็นโปรแกรมอบรมและการแข่งขันมิกโซโลจิสต์ที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุด ซึ่งให้ทั้งความรู้และแรงบันดาลใจแก่บาร์เทนเดอร์มาแล้วกว่า 250,000 คน ใน 60 ประเทศทั่วโลก
เฟ้นหาตัวแทนประเทศไทย
นี่คือ 5 บาร์เทนเดอร์ไทย จากบาร์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่น่าจับตามอง ก่อนการแข่งขัน ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส 2018 "ไทยแลนด์ ไฟนอล" (DIAGEO Reserve World Class 2018 "Thailand Final") จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้
1.ธนกฤช เสรีศิริขจร จาก Sri Trat Restaurant & Bar กรุงเทพฯ สไตล์ค็อกเทลที่เขาถนัดมากที่สุดคือ Spirit-Forward Cocktail "ส่วนตัวผมชอบการผสมผสานของรสชาติมาก เหมือนจินตนาการว่าถ้าเอาสิ่งนั้นกับสิ่งนี้มารวมกันจะเข้ากันได้ไหม หรือควรจะเอาตัวไหนมาเป็นตัวเชื่อมของรสชาติ หรือตัวไหนจะสามารถสร้างความซับซ้อนให้กับเครื่องดื่มแก้วนี้ได้ นี่คือเสน่ห์ของการทำเครื่องดื่มครับ"
2.เดนนิส เทอร์เนอร์ จาก Sooth Barเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ลูกครึ่งไทย-เยอรมันที่จะเข้าแข่งขันครั้งนี้้เป็นครั้งแรก "ส่วนใหญ่แรงบันดาลใจในแต่ละแก้วก็มักจะมาจากสิ่งรอบตัว อย่างความเป็นชาวเกาะก็สามารถนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มของผมได้ครับ"
3.ทศพล อภิวัฒนสวี จาก DIBUKA Café & Restaurant ภูเก็ต เรียนจบด้านอาหารและเครื่องดื่มจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มาโดยตรง "การสร้างสรรค์เครื่องดื่มในแต่ละแก้วของผมจะเริ่มจากการสังเกตบุคลิกภาพของลูกค้าเป็นอันดับแรก รวมถึงสอบถามลูกค้าว่าชอบรสชาติแบบไหนหรือชอบผลไม้อะไร ก่อนจะทำออกมาให้ถูกใจลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด"
4.พิชญพงศ์ จูงกลาง จาก The Bamboo Bar โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ จากเด็กเรียนไม่เก่ง มาถึงการค้นพบตัวเองจากการเป็นบาร์เทนเดอร์ และการควงขวด ทำได้ดีจนออกงานอีเว้นท์หลายงานแล้ว "เครื่องดื่มที่ผมถนัดมากที่สุดคือแนวทวิสต์ โดยนำคลาสสิกค็อกเทลมาปรับให้เป็นเครื่องดื่มที่ยังคงความคลาสสิกอยู่แต่รสชาติ กลิ่น และบางสิ่งบางอย่างตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น"
5.เดชศักดิ์ดา เทียนทอง จาก Vesper Bar กรุงเทพฯ น้องเล็กสุดในจำนวนทั้งหมด แต่ผ่านงานบาร์เทนเดอร์มาแล้ว 2 ปี ชอบพูดคุย ชอบเข้าหาคน เหมาะกับอาชีพบาร์เทนเดอร์ "ผมมองว่าศาสตร์ของการเป็นบาร์เทนเดอร์กว้างมาก อย่างเวลากินข้าว ขนมหวาน หรือเห็นนั่นเห็นนี่ ก็สามารถจุดไอเดียวัตถุดิบใหม่ๆ ให้เราได้"
ร่วมลุ้นร่วมเชียร์
ร่วมติดตามว่าผู้จะได้ไปเข้าร่วมแข่งรอบสุดท้ายที่กรุงเบอร์ลินจะเป็นใครใน 5 สุดยอดฝีมือนี้