posttoday

140 ปีแห่งการเฉลิมฉลองของแบรนด์ Seiko ส่งผ่านแรงบันดาลใจอันหลากหลายสู่ คอลเลกชั่น พรอสเปกซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron)

03 กุมภาพันธ์ 2564

คินทาโร่ ฮัตโตริ (Kintaro Hattori) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ไซโก ได้เริ่มต้นก่อตั้งบริษัทของเขาเมื่อปี 1881 เมื่อเขามีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น

ในช่วง 50 ปีภายใต้การคุมหางเสือของเขา Seiko ได้กลายเป็นบริษัทนาฬิกาชั้นนำในญี่ปุ่น โดยเป็นศูนย์กลางในการออกแบบและมีโรงงานที่ใช้ผลิตเป็นของตนเอง นี่คือความสำเร็จที่เป็นผลโดยตรงมาจากวิสัยทัศน์เพียงหนึ่งเดียวที่ยึดมั่นของฮัตโตริ นั่นคือ ฯ “One step ahead of the rest” หมายถึง ‘การที่ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ’ คำกล่าวของเขายังคงสะท้อนดัง และเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ Seiko มาจนถึงปัจจุบัน

และในปี 2021นี้ Seiko จะเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ ที่ได้รับการสร้างสรรค์เพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่เกิดจากคำกล่าวของคินทาโร่ และเพื่อเป็นเกียรติในการฉลองครบรอบ 140 ปี ของการก่อตั้งบริษัทและแบรนด์ ไซโก โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบนาฬิการุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองในครั้งนี้ ทั้งคอลเลกชั่น พรอสเป็กซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron) โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากอัตลักษณ์ ภูมิทัศน์ ท้องทะเล ของเมืองที่อยู่ในญี่ปุ่น

นาฬิกาดำน้ำพรอสเปกซ์ แรงบันดาลใจแห่งความงดงามของ เกาะอิริโอโมเตะ (Iriomote Island)

140 ปีแห่งการเฉลิมฉลองของแบรนด์ Seiko ส่งผ่านแรงบันดาลใจอันหลากหลายสู่ คอลเลกชั่น พรอสเปกซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron)

เกาะอิริโอโมเตะในจังหวัดโอกินาวา เป็นแหล่งความงามใต้ท้องทะเลที่ดึงดูดนักดำน้ำจากชาวญี่ปุ่นและจากที่อื่นๆทั่วโลก ให้เข้ามาสัมผัสแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แต่เสน่ห์ที่ถือว่ามีความพิเศษของเกาะแห่งนี้อยู่ที่ ป่าชายเลนดึกดำบรรพ์และป่าชายเลนที่มีความบริสุทธิ์ที่อยู่ล้อมรอบเกาะ นอกจากนั้น อิริโอโมเตะยังเป็นแหล่งกำเนิดของพืชพรรณและสัตว์หลายชนิดที่หายาก และบางสายพันธุ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พบได้เฉพาะในเกาะแห่งนี้เท่านั้น  ด้วยองค์ประกอบทางธรรมชาติอย่างแนวปะการัง ป่าดงดิบ ป่าชายเลน ชายหาด แม่น้ำและน้ำตก ทำให้อิริโอโมเตะเป็นเกาะที่มีความสวยงาม มีความหลากหลายทางธรรมชาติ พร้อมความสมบูรณ์อันเขียวชอุ่ม ซึ่งถูกสะท้อนผ่านทางหน้าปัดสีเขียวเข้มของนาฬิการุ่นใหม่นี้

นาฬิกากลไกสองเรือนแรกนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเกาะอิริโอโมเตะ โดยเป็นผลงานที่มีพื้นฐานมาจากนาฬิกานักดำน้ำที่มีชื่อเสียงในปี 1968 ของ Seiko โดยเรือนแรกมีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร ทำงานด้วยความถี่ 8 บีท พร้อมกับตัวเรือนแบบหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้รอยต่อ และถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการทำงานใต้น้ำหรือการดำน้ำต่อเนื่อง (Saturation Diving) หรือการดำน้ำแบบปกติที่อาศัยถังอากาศ (Scuba Diving) ประกอบชิ้นส่วนและปรับแต่งโดยช่างทำนาฬิกาผู้ชำนาญการที่มีฝีมือและทักษะของ Seiko ที่ สตูดิโอเมืองชิซึคูอิชิ (Shizukuishi) พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 8L35 ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับใช้กับนาฬิกาดำน้ำ

ส่วนนาฬิกากลเรือนที่สองนั้น เป็นการต่อยอดความสำเร็จในเชิงนวัตกรรมของนาฬิกาดั้งเดิมในปี 1968 ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ ตัวนาฬิกาได้รับการติดตั้งกลไกที่ทำงานด้วยความถี่ 6 บีท และกันน้ำได้ 200 เมตร โดยทั้ง 2 รุ่นจะจำกัดจำนวนการผลิตเพียง 3,000 และ 6,000 เรือนทั่วโลกตามลำดับ

นาฬิกาเรือนที่สามในคอลเลกชั่นนี้คือนาฬิกาโครโนกราฟที่ใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเปลี่ยนจากพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร โดยจะผลิตจำกัดเพียง 4,000 เรือน ทั่วโลก นาฬิกาทั้ง 3 เรือนประกอบสายที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีสายซิลิโคนเสริมมาให้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม ทั้งหมดจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

Specification: นาฬิการุ่นพิเศษฉลอง 140 ปีแห่งการก่อตั้งของ Seiko

นาฬิกาดำน้ำกลไกอัตโนมัติจากพรอสเปกซ์ : รหัส SLA047

กลไก : 8L35

ระบบขับเคลื่อน : อัตโนมัติ

ความถี่ในการเดิน : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)

พลังงานสำรอง : 50 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม : 26 เม็ด

กระจก : แซฟไฟร์เคลือบสารกันสะท้อน

ประสิทธิภาพกันน้ำ : 300 เมตรในรูปแบบการดำน้ำแบบต่อเนื่อง

ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมป์/เมตร

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 44.3 มม.ความหนา 15.4 มม.

ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีล พร้อมกับการเคลือบพื้นผิวทนทานต่อการขูดขีดแบบซูเปอร์-ฮาร์ด โคตติ้ง เม็ดมะยมแบบขันเกลียว สายแบบบานพับแบบ 3 ชั้นพร้อมปุ่มกดคลายล็อก มีระบบยึดบานพับอยู่ด้านในและสามารถเลื่อนปรับความยาวสาย พร้อมกับมีสายยางซิลิโคน

นาฬิกาดำน้ำกลไกอัตโนมัติจากพรอสเปกซ์ที่สร้างสรรค์พื้นฐานมาจากนาฬิการุ่นดั้งเดิม

ในปี 1968 : รหัส SPB207

กลไก : 6R35

ระบบขับเคลื่อน : อัตโนมัติ

ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)

พลังงานสำรอง : 70 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม : 24 เม็ด

กระจก : แซฟไฟร์เคลือบสารกันสะท้อน

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 42.0 มม.ความหนา 12.5 มม.

ประสิทธิภาพกันน้ำ : 200 เมตร

ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมป์/เมตร

ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีล พร้อมกับการเคลือบพื้นผิวทนทานต่อการขูดขีดแบบซูเปอร์-ฮาร์ด โคตติ้ง ฝาหลังและเม็ดมะยมแบบขันเกลียว บานพับแบบ 3 ชั้นพร้อมปุ่มกดคลายล็อก มีระบบยึดบานพับอยู่ด้านในและสามารถเลื่อนปรับความยาวสาย มาพร้อมกับสายยางซิลิโคน

จำนวนการผลิต : 6,000 เรือนทั่วโลก

นาฬิกาพรอสเปกซ์ โซลาร์ โครโนกราฟ : รหัส SSC087

กลไก : V192

ความเที่ยงตรง : +/-15 วินาทีต่อเดือน

ระบบจับเวลา : ระบบจับเวลาละเอียด 1/5 วินาที นานต่อเนื่องสูงสุด 60 นาที แสดงวันที่ และระดับกำลังงานสำรอง

กระจก : แซฟไฟร์

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 44.5 มม.ความหนา 13.7 มม.

ประสิทธิภาพกันน้ำ : 200 เมตร

ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมป์/เมตร

ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีล ฝาหลังและเม็ดมะยมแบบขันเกลียว

สายบานพับแบบ 3 ชั้นพร้อมปุ่มกดคลายล็อก มีระบบยึดบานพับอยู่ด้านในและสามารถเลื่อนปรับความยาวสาย พร้อมสายยางซิลิโคน

จำนวนการผลิต : 4,000 เรือนทั่วโลก

(Presage Sharp Edged Series) พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ นาฬิกากลไกอัตโนมัติที่ได้แรงบันดาลใจจากนครโตเกียวในยามรุ่งอรุณ

พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นในปี 2020 โดยผสานพื้นผิวตัวเรือนที่แบนเรียบเข้ากับความเฉียบคมของเหลี่ยมสันบนตัวเรือน ซึ่งช่วยทำให้นาฬิกาสามารถสะท้อนประกายขึ้นมาในยามที่มีแสงส่องตกกระทบ เหมือนเช่นกับรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในซีรีส์นี้ การสร้างสรรค์ใหม่ครั้งนี้มาพร้อมกับลวดลายอาซาโนฮะ (Asanoha) หรือลายใบป่าน อัตลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้นับพันปี และพบเห็นได้บ่อยจากลายถักทอของผ้าญี่ปุ่น

ประกายสีทองที่เกิดขึ้นบนหลักชั่วโมงและชุดเข็มถูกจัดวางอยู่บนพื้นหน้าปัดสีดำ สะท้อนภาพของท้องฟ้าในช่วงใกล้รุ่งด้วยแสงสีทองที่ทาบบนผืนฟ้าของนครโตเกียวที่กำลังเริ่มตื่นขึ้นเพื่อรับวันใหม่สายโลหะที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลรมดำหรือสายที่เพิ่มเข้ามาในชุดอย่างสายหนังสีดำ สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้นาฬิกาพรีซาจ กลไกอัตโนมัติรุ่นนี้ นำเสนอความแตกต่างด้วยมุมมองที่ทันสมัยบนความงดงามที่สะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว นาฬิการุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เรือนทั่วโลก และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ : รหัส SPB205

กลไก : 6R35

ระบบขับเคลื่อน : อัตโนมัติ

ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)

พลังงานสำรอง : 70 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม : 24 เม็ด

กระจก : แซฟไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อนแสง

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 39.3 มม.ความหนา 11.1 มม.

ประสิทธิภาพกันน้ำ : 10 เมตร

ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมป์/เมตร

ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีล พร้อมกับการเคลือบพื้นผิวทนทานต่อการขูดขีดแบบซูเปอร์-ฮาร์ด โคตติ้งสีดำ ฝาหลังใสแบบขันเกลียว  สายบานพับแบบ 3 ชั้นพร้อมปุ่มกดคลายล็อก พร้อมสายหนังวัวแท้

จำนวนการผลิต : 4,000 เรือน ทั่วโลก

แอสตรอน ภาพความงามของดอกซากุระในยามค่ำคืน

140 ปีแห่งการเฉลิมฉลองของแบรนด์ Seiko ส่งผ่านแรงบันดาลใจอันหลากหลายสู่ คอลเลกชั่น พรอสเปกซ์ (Prospex) พรีซาจ(Presage) และ แอสตรอน (Astron)

ความน่าหลงใหลจากการผลิบานของดอกซากูระของชาวญี่ปุ่นนั้นมีนอกเหนือจากเวลากลางวัน โยซากุระ (Yozakura) เป็นชื่อที่ตั้งให้กับดอกไม้ที่ผลิตบานเพียงชั่วขณะ แต่สวยงามเมื่อมองเห็นภายใต้ท้องฟ้าที่มีแสงดาวระยิบระยับ ดอกไม้เหล่านี้ราวกับเปล่งแสงและสร้างมนต์เสน่ห์กับพื้นที่ที่อยู่รอบตัว

ด้วยตัวเรือนและสายโลหะสีดำ เปรียบเสมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน พื้นหน้าปัดสีม่วงที่มีเหลื่อมสีชมพูถ่ายทอดความงดงามของโยซากุระได้อย่างสมบูรณ์แบบ หน้าปัดที่ไล่เฉดเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนสวยงาม จากสีอ่อนค่อยๆ เข้มขึ้นในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ช่วยเพิ่มความลึกลึกลับและความน่าหลงใหลที่เปรียบเสมือนยามเย็นแห่งฤดูใบไม้ผลิที่อ่อนโยนในญี่ปุ่น ตัวเรือนมีเงาสะท้อนที่เป็นแนวโค้งรับกับตัวเรือน ความกว้างของขาสายนาฬิกาเป็นแบบเดียวกับที่พบได้ในรุ่นดั้งเดิมอย่างควอตซ์ แอสตรอน (Quartz Astron) รุ่นปี 1969 และขับเคลื่อนด้วยกลไก GPS Solar Dual-Time รหัส 5X53 ที่มีความทันสมัยที่สุด ซึ่งสามารถปรับเวลาให้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก*

(* บางครั้งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภูมิภาค / เขตเวลา / DST ซึ่งผู้ใช้อาจจะต้องปรับเวลาด้วยตัวเอง)

ใช้เพียงพลังงานแสงอาทิตย์และแสงทั่วไปเพื่อแปลงเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน นำเสนอการปรับตั้งเวลาอย่างรวดเร็ว รวมถึงการตั้งเวลาต่างไทม์โซน นาฬิกาแอสตรอนที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ รุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือน และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่บูติก Seiko, เคาท์เตอร์ Seiko ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายนาฬิการุ่นนี้

แอสตรอน จีพีเอส โซลาร์ ดูอัล-ไทม์ 5x53 : SSH083

กลไก : 5X53 ปรับเวลาด้วยสัญญาณจีพีเอส แสดงเวลา 2 ไทม์โซน ตัวแสดงเวลาเช้าหรือเย็น พร้อมปฏิทินร้อยปีที่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2100 พร้อมฟังก์ชั่น ปรับชดเชยเวลา DST ปรับ เปลี่ยนเวลาด้วยความรวดเร็วสูง มีมาตรวัดแสดงสถานะของการรับสัญญาณ

แสดงเวลาทั่วโลก (39 ไทม์โซน) พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน

ความเที่ยงตรง : +/-15 วินาทีต่อเดือน (โดยที่ไม่มีการรับสัญญาณจีพีเอส และที่อุณหภูมิระหว่าง 5 ถึง 35 องศาเซลเซียส)

กระจก : แซฟไฟร์ทรงโค้งคู่เคลือบสารเพิ่มความใส

ประสิทธิภาพกันน้ำ : 10 เมตร

ความทนทานต่อสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมป์/เมตร

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 42.7 มม.ความหนา 13.3 มม.

ตัวเรือนและสาย : ผลิตจากสแตนเลสสตีล พร้อมกับการเคลือบพื้นผิวทนทานต่อการขูดขีดแบบซูเปอร์-ฮาร์ด โคตรติ้งสีดำ สายบานพับแบบ 3 ชั้นแบบปรับอย่างสะดวกพร้อมปุ่มกดคลายล็อก 

จำนวนการผลิต : 1,500 เรือน ทั่วโลก