ความสำเร็จแบบ‘ส้มตำ’ แก้ปัญหาแบบ ‘ส้มคลุก’
วิธีการแก้ปัญหาเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวล้วนสอดคล้องกัน
เนรมิต สร้างเอี่ยม กูรูด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของแนวคิด 'คิดทุกเม็ด ครบทุกมุม คุ้มทุกเมตร' [email protected]
น้องๆ ชอบทาน “ส้มตำ” กันไหมครับ มีผลสำรวจรายการหนึ่งกล่าวไว้ว่า ในภาคอีสานของไทย มีคนเพียงร้อยละ 2-3 เท่านั้นที่ไม่ชอบทานส้มตำ ส่วนภาคอื่นๆ กะตามสายตาและประสบการณ์ ก็น่าจะมีคนเกินกว่าครึ่งที่ชอบทานส้มตำละครับ
ส้มตำเป็นอาหารที่เกิดขึ้นเพราะถนนมิตรภาพครับ ทหารอเมริกันที่เป็นคนสร้างถนนสายนี้สำหรับลำเลียงยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในช่วงสงครามเวียดนาม นำพันธุ์มะละกอจากประเทศมาเลเซียเข้ามาปลูกริมสองข้างถนน ส้มตำจึงเกิดขึ้นครั้งแรกในภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเอง
ตัวส้มตำนั้น ไม่มีผล “ส้ม” สักนิด แต่ที่ใช้ว่าส้มตำ เพราะคำว่า “ส้ม” มาจากภาษาพื้นถิ่นที่แปลว่า “เปรี้ยว” ไม่ใช่มาจากชื่อผลส้ม ส่วน “ตำ” ก็คือวิธีการทำอาหารชนิดนี้ที่ใช้ผัก-ผลไม้หลายชนิดมาผสมรวมกัน แล้วก็คลุกและ “ตำ” นั่นเอง
ผลไม้ “มะละกอ” ในส้มตำ ถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบส่วนหลักเลยทีเดียว ส้มตำที่อร่อยจึงจำเป็นต้องเริ่มจากส่วนนี้ แต่เท่าที่ได้ชิมมาตลอดช่วงอายุที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ผมรู้สึกว่าความดิบของมะละกอนี้ ไม่พอดีกับการเป็นส้มตำจานอร่อย บางรายสุกไป บางรายดิบไป บางรายออกสีส้ม ไม่เป็นสีเขียวอ่อนๆ สวยตามที่ควรจะเป็น อย่างนี้เป็นต้น หลายรายไม่ได้มุ่งมั่นค้นหาวัตถุดิบมะละกอที่มีขนาดความสุกดิบพอดี และไม่ได้มีแนวทางการป้องกันความเสี่ยงพอเพียง เพื่อให้ได้มะละกอที่มีความพอดีดังกล่าว แต่กลับไปมุ่งเน้นที่ส่วนประกอบ
อื่นๆ ซึ่งไม่ใช่หัวใจของความเป็นส้มตำ บางคราวอาจดัดแปลงใส่ผัก-ผลไม้อื่นๆ ผสมหรือทดแทนไปเลย เพื่อตัดปัญหา ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ หากเราต้องการทำส้มตำที่อร่อย
อีกประการที่น่าเสียดายคือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการปรุงจากการ “ตำ” เป็นการ “คลุก” แทน เพื่อให้สามารถทำในปริมาณที่มากขึ้น อีกทั้งในระยะเวลาที่น้อยลง ประหนึ่งว่าเรากำลังแก้ไขปัญหาต่างๆ นานาเพื่อให้เราได้ทาน “ส้มตำ” เร็วขึ้น แต่สิ่งที่เราได้ทานนั้นกลับเป็น “ส้มคลุก” ที่ไม่อร่อย หาใช่ส้มตำแบบที่เราต้องการแต่แรกไปเสียแล้ว
วิธีการแก้ไขปัญหาในเรื่องอื่นๆ ทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัว และชีวิตการทำงานก็เช่นเดียวกันครับ ให้ลองสังเกตรูปแบบวิธีการแก้ไขปัญหาในเรื่องต่างๆ ของตัวเองไว้นะครับ สังเกตว่าวิธีแก้ไขปัญหาของเราเป็นการแก้ไขปัญหาแบบ “ส้มตำ” ที่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เราต้องการจริงๆ หรือเป็นผลลัพธ์ที่เพี้ยนไปจากเดิม กล่าวคือเป็น “ส้มคลุก” ไปเสียแล้ว อีกทั้งเราก็ยอมรับสิ่งนั้นไปเสียด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราต้องการแต่แรก
ขอให้กำลังใจน้องๆ ในการยืนหยัดเพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการแต่แรกนะครับ เพราะมันไม่ยากเลยที่จะทำครับ เพียงแต่ต้องทำด้วยความรู้ ที่อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมเข้าไปอีก เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ ซึ่งคงต้องแลกมาด้วยระยะเวลาและความทุ่มเท-มุ่งมั่น
และในที่สุดหากเราทำตรงนั้นได้ ผมก็เชื่อว่าไม่เพียงเราจะได้ทาน “ส้มตำ” ของแท้เท่านั้น เรายังจะได้ความไว้วางใจ ความเชื่อใจ ความมั่นใจ ความชื่นชมจากลูกค้าผู้อยากทานส้มตำ ซึ่งสิ่งทั้งหมดที่ลูกค้าให้เรามานี้ จะหลอมรวมกลายพันธุ์เป็นสิ่งใหม่ที่ทุกคนเรียกตรงกันว่า “ความสำเร็จ” และบังเกิดกับชีวิตของเราได้ต่อไปในระยะเวลาอันใกล้ แน่นอนครับ!