เหตุผลที่คนไทยใช้ EV มากขึ้น ค่าชาร์จถูกกว่าน้่ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
GWM จับมือ นิด้าโพล เปิดผลสำรวจรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง คนไทยมีแนวโน้มซื้อมากขึ้น เหตุผลฮิต ค่าชาร์จถูกกว่าน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนคนยังไม่ซื้อ EV กังวล ความปลอดภัย สถานีชาร์จ ระยะเวลาในการชาร์จที่นานขึ้น
ผลสำรวจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ “นิด้าโพล” ที่สำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมคนไทยที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 1,000 คนทั่วประเทศในเดือนธันวาคม 2566 พบว่า คนไทยให้ความสนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) มากที่สุดถึง 64.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในปี 2564 อย่างมีนัยสำคัญถึง 37.5%
กลุ่มรถที่คนสนใจมากที่สุดคือ EV มีสัดส่วนแบ่งเป็น
- รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) 64.8%
- ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) 22.2%
- ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) 13.0%
ผลสำรวจที่ทำให้คนไทยหันมาใช้รถ EV คือ
- ราคาค่าชาร์จไฟที่ถูกกว่าราคาน้ำมัน (34.1%)
- ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (18.9%)
ที่กล่าวมาเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในรถยนต์พลังงานใหม่ของผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และความคุ้มค่าในด้านค่าใช้จ่ายของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
ผลสำรวจความเห็นและพฤติกรรมคนไทยเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้าปี 2566 ที่ผ่านมานี้ ได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 200 คน
- กลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาป 800 คน ในช่วงอายุระหว่าง 30 – 60 ปี
คนใช้รถยนต์สันดาปสนใจใช้รถ EV มากขึ้น
สำหรับกลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปนั้น สัดส่วนมากถึง 81.3% สนใจที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในอนาคต
- ประหยัดพลังงาน (89.4%)
-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (72.3%)
-มองว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย (49.9%)
รูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้ใช้รถยนต์สันดาปอยากเป็นเจ้าของมากที่สุด คือ
- รถยนต์แบบซีดานสูงสุดที่ 63.6%
- ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ SUV 27.8%
- รถกระบะ 5.1% และรถยนต์อเนกประสงค์ PPV 3.5%
ส่วนใหญ่กลุ่มเหล่านี้มีแผนที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอีก 3-4 ปี และคาดหวังว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จะซื้อนั้นจะมีระยะทางการขับขี่ต่อหนึ่งการชาร์จในช่วงระหว่าง 501 – 600 กิโลเมตร ในราคาประมาณ 700,001 – 900,000 บาท
แบรนด์รถยนต์ EV ที่จะซื้อในอนาคต
สำหรับคนที่จะซื้อรถยนต์ EV ในอนาคตนั้นส่วนใหญ่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ประเทศจีนสูงถึง 83.1% เนื่องจากเชื่อมั่นในแบรนด์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี และคุณภาพของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปยังไม่ตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในขณะนี้ มาจากความไม่มั่นใจในเรื่องระบบความปลอดภัยเป็นหลัก (66.0%) ตามด้วยจำนวนสถานีชาร์จที่มีจำกัด (50.7%) และความกังวลเกี่ยวกับเวลาในการชาร์จที่ยาวนาน (40.0%)
ด้านกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันหลักในการเดินทาง (91.5%) และมีความพึงพอใจกับการใช้รถเนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่าย (ราคาค่าชาร์จไฟที่ถูกกว่าราคาน้ำมัน) มากถึง 49.2% ตามด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและการออกแบบที่สวยงาม (16.6%) และการขับขี่คล่องตัว อัตราเร่งดี (14.5%)
เหตุผลที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ค่อยชอบใจคือ
- จำนวนสถานีชาร์จที่น้อย (57.1%)
- ระยะเวลาในการชาร์จที่นานเกินไป (42.9%)
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มองว่า รถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์จีนนั้นมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์สันดาปมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์จีนมีราคาที่จับต้องได้และมีความคุ้มค่ากว่ารถยนต์จากประเทศอื่น ตามด้วยการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม และมีระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย