posttoday

แนวทางใหม่แก้ปัญหาเมาแล้วขับ การตรวจจับความเมาผ่านกล้อง

16 กรกฎาคม 2567

เมาแล้วขับ ปัญหาน่าปวดหัวบนท้องถนนที่แก้ไม่ตกในทุกยุคทุกสมัย แม้มีการรณรงค์เป็นวงกว้างก็ยังมีข่าวการสูญเสียให้ได้ยินแทบทุกปี แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อมีการพัฒนาระบบตรวจจับความเมาผ่านกล้องในไม่กี่วินาที

เราทราบกันดีว่าเมาแล้วขับคือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ถือเป็นเรื่องอันตรายซึ่งอาจสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางช่วงเทศกาลหยุดยาวต่างๆ ที่ทำให้อัตราการดื่มแล้วขับเพิ่มสูงขึ้นมาก

 

          ที่ผ่านมาเรามีแนวทางรับมือป้องกันการเมาแล้วขับหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ตั้งด่านตรวจตามสถานที่เสี่ยงช่วงเทศกาล ไปจนรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน แต่หลายครั้งการเมาแล้วขับยังคงเกิดขึ้นนำไปสู่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

 

          แต่จะเป็นอย่างไรถ้านับจากนี้กล้องวงจรปิดจะสามารถตรวจจับความมึนเมาของคนขับได้

 

แนวทางใหม่แก้ปัญหาเมาแล้วขับ การตรวจจับความเมาผ่านกล้อง

 

เมื่อกล้องตรวจจับอาการมึนเมาอัตโนมัติ

 

          ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Edith Cowan University แห่งออสเตรเลีย กับการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับติดตามและตรวจจับพฤติกรรมและอาการมึนเมาจากภาพเคลื่อนไหว นำไปสู่ระบบกล้องที่อาศัยการจับภาพเพื่อประเมินระดับความมึนเมาของเป้าหมายแบบเรียลไทม์

 

          ปัญหาเมาแล้วขับนับเป็นเรื่องน่าปวดหัวให้ต้องตามแก้อยู่ทุกปี ไม่ว่าจะมีการควบคุมดูแล เฝ้าระวัง ตรวจตรา หรือรณรงค์ให้ความรู้มากแค่ไหนก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะมีการพัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับเพื่อชี้วัดลงโทษผู้กระทำผิด หลายครั้งก็ยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

 

          นี่เป็นเหตุผลให้พวกเขาพัฒนาระบบตรวจจับความมึนเมาผ่านกล้องวีดีโอทั่วไป อาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเพื่อตรวจหาระดับความมึนเมา โดยมีตัวชี้วัดสำคัญที่ถูกใช้ในการประเมินคือลักษณะและการขยับของใบหน้า มุมมองทิศทางสายตา และตำแหน่งศีรษะ

 

          ขั้นตอนการพัฒนาระบบนี้เริ่มต้นจากอาสาสมัคร 60 ราย อาศัยการเก็บข้อมูลจากเครื่องจำลองการขับขี่โดยแบ่งระดับความมึนเมาออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่ไม่เมา เมาเล็กน้อย ไปจนเมามาก โดยเน้นไปในส่วนความเคลื่อนไหวและแตกต่างบริเวณใบหน้าซึ่งเป็นส่วนแรกที่มักจับภาพได้ในการขับขี่ยานพาหนะ

 

          เมื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลให้ระบบทำการเรียนรู้ จะช่วยให้ระบบกล้องวงจรปิดสามารถใช้ภาพเคลื่อนไหวบริเวณใบหน้าเพียงไม่กี่วินาที ระบบได้รับการออกแบบให้ใช้งานร่วมกับกล้องระบบ RGB ที่มีการใช้งานทั่วไป สามารถจำแนกระดับความมึนเมาออกเป็น 3 ระดับ และมีความแม่นยำเฉลี่ยอยู่ที่ 75%

 

          ถือเป็นระบบคัดกรองคนเมาแล้วขับรุ่นใหม่ที่มีประโยชน์ทั้งต่อคนทั่วไปและผู้บังคับใช้กฎหมาย

 

แนวทางใหม่แก้ปัญหาเมาแล้วขับ การตรวจจับความเมาผ่านกล้อง

 

สู่อนาคตที่กล้องทุกตัวใช้ตรวจหาคนเมาแล้วขับได้

 

          แน่นอนพวกเขาไม่ใช่เจ้าแรกที่พัฒนาแนวทางตรวจหาคนเมาหรือผู้ดื่มแอลกอฮอล์เกินกำหนด ที่ผ่านมามีการคิดค้นอุปกรณ์ขึ้นมาหลายอย่าง เช่น รีโมทรถยนต์ที่ไม่สตาร์ทเมื่อผู้กดเมา, เบาะนั่งตรวจความดันโลหิตและชีพจร หรือแว่น VR ตรวจแอลกอฮอล์ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ต้องทำการติดตั้งเพิ่มเติมซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

 

          แตกต่างจากระบบที่อาศัยการตรวจจับชี้วัดผ่านกล้อง RGB ที่มีใช้งานกันทั่วไป ไม่ต้องติดตั้งหรือเสริมอุปกรณ์ใดๆ ทำให้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ในเวลาไม่กี่วินาที ในขณะที่อุปกรณ์ชนิดอื่นมักใช้เวลานานกว่าจนจำเป็นต้องใช้เวลาในการรอผล

 

          อีกหนึ่งจุดเด่นของระบบนี้คือความเข้าถึงและใช้งานง่าย ทั้งหมดที่ต้องทำมีเพียงการปล่อยกล้องให้จับภาพใบหน้าของเป้าหมายตามปกติก็ระบุอาการมึนเมาได้ทันที สะดวกต่อผู้บังคับใช้กฎหมายที่ไม่ต้องมาปวดหัวกับการหาทางให้คนเมาแล้วขับมาให้ความร่วมมือ หรือการเรียกจอดทำการตรวจที่อาจทำให้การจราจรติดขัด

 

          การพัฒนาระบบนี้จะช่วยให้การตรวจคัดกรองคนเมาทำได้สะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยหากนำระบบนี้มาใช้ร่วมกับกล้องภายในหรือกล้องหน้ารถ ก็จะสามารถใช้ในการทดสอบผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือแม้แต่คู่กรณี ใช้เป็นหลักฐานเวลาเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

 

          ในอนาคตหากสามารถพัฒนาให้ระบบตรวจจับนี้สามารถทำงานร่วมกับกล้องจราจรที่ติดตั้งตามท้องถนน แบบเดียวกับการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับการคาดเข็มขัดหรือการใช้โทรศัพท์มือถือของคนขับ ก็จะสามารถนำไปใช้งานควบคุมคนเมาแล้วขับในยานพาหนะทุกประเภท

 

          นี่จึงอาจเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราสามารถก้าวเข้าสู่ท้องถนนแห่งการดื่มไม่ขับอย่างแท้จริง

 

 

 

          ปัจจุบันระบบตรวจจับนี้ยังอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเพิ่มความแม่นยำในการระบุผลลัพธ์ และการทำงานร่วมกับกล้องความละเอียดต่ำเพื่อใช้ร่วมกับกล้องจราจรและวงจรปิดต่างๆ ซึ่งจะถือเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ป้องกันกลุ่มคนเมาแล้วขับไม่ให้สร้างความเสียหาย

 

          คงต้องรอดูต่อไปว่าระบบนี้จะนำมาใช้จริงได้แค่ไหน แต่หากสำเร็จเชื่อว่านี่จะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะได้อีกมาก

 

 

 

 

          ที่มา

 

          https://www.ecu.edu.au/newsroom/articles/research/ecu-researchers-develop-visual-tracking-technology-to-detect-drink-drivers

 

          https://newatlas.com/health-wellbeing/drunk-driving-facial-cameras/