"ฮาร์เลย์" ใช้ไทยตั้งโรงานผลิตรถจักรยานยนต์แห่งที่ 5 คาดเริ่มผลิตปี 2025

เดลี่ เมล รายงาน บริษัท  "ฮาร์เลย์-เดวิดสัน" (Harley-Davidson) จะย้ายฐานการผลิตรถมอเตอร์ไซค์จำนวนหนึ่งไปยัง "ประเทศไทย" คาดโรงงานผลิตอยู่ที่จังหวัดระยอง

ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Harley-Davidson จะทำการย้ายฐานการผลิต “รถมอเตอร์ไซค์กลุ่มที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์” ที่ใช้เครื่องยนต์กลุ่ม Revolution Max ซึ่งประกอบไปด้วย Pan America, Nightster, และ Sportster S ให้มาผลิตในไทยทั้งหมดนับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป แล้วจึงค่อยส่งกลับไปทำตลาดในบ้านเกิดตนเองในภายหลัง จากที่เคยผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาของตนเองเพื่อขายในประเทศตนเองโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
 

โดยเหตุผลสำคัญที่ทาง Harley-Davidson ระบุไว้ถึงที่มาที่ไปของการตัดสินใจทิศทางการทำธุรกิจในลักษณะดังกล่าว พวกเขาก็ระบุว่าเป็นเพราะทางบริษัทต้องการปรับเปลี่ยนไลน์ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของแต่ละโรงงานที่ตนมีอยู่ทั้งในสหรัฐอเมริกา และประเทศไทย ให้มีความเหมาะสมและสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ

การย้ายฐานการผลิตมาในไทยเป็นไปเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะการผลิตรถหนึ่งรุ่นในโรงงานใดโรงงานหนึ่งแห่งเดียว ย่อมทำให้การควบคุมต้นทุนการผลิต และการขนส่งอะไหล่ทำได้ง่าย และทำให้โรงงานสามารถลดช่องว่างในการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่หลากหลายรุ่นมากเกินไปลง และทำให้สามารถผลิตรถที่เป็นโมเดลหลักของโรงงานได้มากขึ้นด้วย
 

ประวัติศาสตร์ 120 ปี คนอเมริกันไม่เคยใช้ "ฮาร์เลย์" ผลิตจากต่างประเทศ

ตลอดระยะเวลา 120 กว่าปีที่ผ่านมา สาวกระดับเดนตาย ของมอเตอร์ไซค์ของแบรนด์ Harley-Davidson จะได้ใช้เฉพาะรถที่ผลิตในประเทศของตัวเองเท่านั้น  ตามคอนเซ็ปท์การสร้าง “American Made” เพื่อคนอเมริกัน

ดังนั้น เมื่อมีการประกาศว่านับจากนี้ ชาวอเมริกันจะต้องใช้รถ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่ผลิตจากประเทศอื่น สร้างความไม่พอใจกับพลพรรคชาวฮาเลย์ของสหรัฐ อเมริกาจำนวนไม่น้อย บานปลายจนถึงขั้นสหภาพแรงงานที่สหรัฐ อเมริกา ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของแบรนด์ ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกรุ่น แถมยังเป็นรุ่นที่ไม่ใช่ตัวขายหลักของแบรนด์ในประเทศตนเองด้วยซ้ำ

แต่ที่เกิดความไม่พอใจเป็นเพราะ หลายฝ่ายมองว่ามันเป็นเหมือนกับการ “ทรยศ” เหล่าสาวกและผู้ใช้ ต่อนิยาม  “American Made” ที่ทางบริษัทได้เคยให้เอาไว้ และทำให้ความจงรักภักดีต่อแแบรนด์ในเหล่าสาวกบางรายต้องสั่นคลอน จนถึงขนาดที่ว่าพวกเขาอาจไม่กลับมาซื้อรถมอเตอร์ไซค์ของแบรนด์อีก แม้ว่ารถที่พวกเขาต้องการเลือกซื้อจากแบรนด์ จะไม่ใช่รุ่นที่ถูกส่งมาจากประเทศไทยก็ตาม

ส่วนในมุมของพนักงาน และสหภาพแรงงานเอง มีความกังวลว่าพวกเขาจะถูกปลดอย่างไม่เป็นธรรมจากการประกาศปรับแผนธุรกิจในครั้งนี้  แม้ทางค่ายจะไม่ได้มีการประกาศปรับโครงสร้างจ้างคนออก เพื่อลดจำนวนบุคลากรลง ให้สัมพันธ์กับจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ต้องผลิตในโรงงาน แถมในความเป็นจริงทางบริษัทยังระบุไว้ว่าจะมีการพิจารณาปรับให้พนักงานที่ประจำอยู่ในไลน์ผลิตหลักของรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นข้างต้น ให้ไปอยู่ในตำแหน่งอื่นของไลน์ผลิตที่ยังมีอยู่อย่างเหมาะสมต่อไป