AOT ผนึกกรมศุลกากร เปิดตัว "ศูนย์กระจายสินค้าครบวงจร” ดันไทยสู่ Aviation Hub
ครั้งแรกในไทยกับการเปิดตัว “ศูนย์มัลติโมดอล” หรือ “ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า” เชื่อมระบบโลจิสติกส์แบบไร้รอยต่อทั้งทางบก ราง น้ำ อากาศ ผ่านด่านศุลกากรจบในจุดเดียว ยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งไทยสู่Aviation Hub
เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยสู่การเป็น Aviation Hub ของภูมิภาค บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) ร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และกรมศุลกากร เปิดตัว "ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (Multimodal Transportation Center)" ศูนย์บริการขนส่ง สินค้าผ่านแดนครบวงจร รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ทั้ง ทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ พร้อมดำเนินพิธีการศุลกากรได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) โดยสามารถรองรับปริมาณการขนส่งได้กว่า 50,000 ตันต่อปี
“ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (Multimodal Transportation Center) นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน ชูจุดเด่น ผนวกรูปแบบการขนส่งทุกประเภท ทั้งทางบก ราง น้ำ อากาศ การรวมตู้สินค้า และการเก็บรักษา พร้อมดำเนินพิธีการทางศุลกากรเบ็ดเสร็จในจุดเดียว สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ หนุนการเติบโตของ E-Commerce ยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง” - สิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ AOTGA
สำหรับศูนย์มัลติโมดอล ใช้งบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 4,872 ตารางเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่ให้บริการ 2 ส่วน
1. Fixed Area พื้นที่สำหรับผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมประกอบกิจการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า
2. Public Area พื้นที่ที่ทาง AOTGA ให้บริการเอง
โดยตั้งเป้าให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งทั้งในและต่างประเทศที่เป็นตัวแทนในการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) และ ผู้ประกอบการของเร่งด่วน (Express Consignment) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการมุ่งเน้นใช้ประเทศไทยเป็น HUB ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ และเวียดนาม)
รวมถึงโฟกัสไปยังกลุ่มสินค้า E-Commerce จากปัจจัยเกื้อหนุนด้านการบิน และเครือข่ายการบินที่เชื่อมโยงสู่ทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป นอกจากนี้ AOTGA ยังได้นำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาให้บริการในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า อาทิ ระบบติดตามทางศุลกากรจากด่านศุลกากรมายังศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าด้วยระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ (E-lock System) และระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (E-Inventory)
“ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 115/2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ซึ่งนับเป็นความร่วมมือที่สร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการนำเข้าและส่งออกสินค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ทำให้ Ecosystem มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งกรมศุลกากรพร้อมให้การสนับสนุนภาคเอกชนและตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในระดับภูมิภาค” - พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร
ทั้งนี้ สำหรับการเปิดตัว "ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า" เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่แรก ซึ่งหากได้รับผลตอบรับที่ดีคาดว่าจะเดินหน้าเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าในลักษณะดังกล่าวตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ อาทิ เชียงใหม่ และภูเก็ตต่อไป โดยทาง AOTGA ตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 ไว้ที่ประมาณ 80 ล้านบาท