ผุดไอเดียเก็บค่าธรรมเนียมรถติด 50 บาท คาดมีรายได้ 1 หมื่นล้าน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ไปศึกษาเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ต้องดูผลการศึกษาเดิม แล้วต้องไปคุยกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่า ถ้าค่าโดยสารถูกลง จะมีคนใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหรือไม่
 

โดยโมเดลที่มีการพูดคุยกัน ซึ่งอ้างอิงจากที่ สนข. เคยศึกษาไว้ร่วมกับสำนักงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย คือการเก็บจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่ง (Congestion charge) ซึ่งตอนนี้กำลังพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องอยู่ทั้งกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่คาดว่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน 

ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ตามผลการศึกษาเดิมที่ทำไว้ได้ศึกษาถนนทั้ง 6 เส้นเช่น ถนนสุขุมวิท เพชรบุรี สีลม รัชดาภิเษก มีปริมาณจราจรรวมกันประมาณ 700,000 คัน/วัน หากเก็บคันละ 40-50 บาท จะมีรายได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาทเพื่อซื้อคืนรถไฟฟ้าในทุกสัมปทานโดยเฉพาะสายสีเขียว โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินสูงถึง 2 แสนล้านบาท ในการซื้อคืนสัมปทาน อย่างไรก็ตาม ไม่เกินกลางปี 2568 จะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

สำหรับการตั้งกองทุนจะต้องมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จำเป็นจะต้องศึกษาให้ดีเพราะจะต้องมีแหล่งเงินที่จะต้องจัดเก็บรายได้ และนำเงินไปซื้อรถไฟฟ้าคืน แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อไปดำเนินการซึ่งเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วยซึ่ง เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าพรรคร่วมจะไม่มีปัญหา เพราะถือว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงร่วมกัน นายสุริยะกล่าวถึงการที่จะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติการเงินและนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร