"กลยุทธ์ 4 ใหม่" ช่วยก้าวสู่ความสำเร็จยุคดิจิทัลและอัจฉริยะ

นายเจมส์ เฉิน ประธานธุรกิจ Carrier ของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Ultra-Broadband Forum ครั้งที่ 10 (UBBF 2024) หัวข้อ “Network+AI, การสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่มากขึ้น” โดยมีใจความสำคัญว่า “การสำรวจศักยภาพของ AI จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ “FOUR NEW” หรือ "4 ใหม่" ได้แก่ ฮับใหม่ บริการใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และการดำเนินงานใหม่ เพื่อช่วยผู้ให้บริการขยายขอบเขตการตลาด สร้างบริการนวัตกรรม และยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด ขณะเดียวกันยังช่วยปรับปรุงการดำเนินงานเครือข่าย (O&M) และบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจ หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตรทั่วโลก เพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจและอนาคตที่ประสบความสำเร็จร่วมกันในยุคดิจิทัลและอัจฉริยะผ่านกลยุทธ์ 4 ใหม่”
 

เมื่ออุตสาหกรรมอัลตร้าบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband: UBB) และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จำนวนผู้ใช้ไฟเบอร์บรอดแบนด์ในระดับกิกะบิตทั่วโลกจะมีมากกว่า 300 ล้านราย และความเร็วเฉลี่ยของแพ็กเกจบรอดแบนด์ตามบ้านจะเป็น 570 Mbit/s โดยมีโมเดลพื้นฐาน AI กว่า 1,300 โมเดล และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI มากกว่า 30,000 แห่งทั่วโลก อุตสาหกรรม UBB และ AI ต่างส่งเสริมกันและผลักดันการใช้งานบรอดแบนด์กิกะบิตอย่างแพร่หลาย

หัวเว่ย เชื่อว่ากลยุทธ์ 4 ใหม่ เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจมากขึ้นผ่าน Network+AI

•    ฮับใหม่ (New Hub): ฮับใหม่ คือ AI Hub สำหรับบริการภายในบ้าน โดยมีแกนหลักคือการพัฒนาเอเจนต์ AI (AI agent) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผู้คน อุปกรณ์ และแอปพลิเคชัน เข้าใจและตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อให้บริการตามความต้องการ และเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน AI เพื่อขยายขอบเขตของบริการภายในบ้าน ฮับใหม่นี้ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างความก้าวหน้าในตลาดภายในบ้านได้อีกด้วย

•    บริการใหม่ (New Services): ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอบริการใหม่และรวบรวมเนื้อหาคุณภาพสูงโดยใช้ AI เพื่อสร้างระบบนิเวศของแอปพลิเคชัน AI ในบ้านอย่างค่อยเป็นค่อยไป AI ไม่เพียงแต่สามารถยกระดับบริการแบบดั้งเดิม เช่น ฟิตเนสเชิงโต้ตอบและเกมจับความเคลื่อนไหว แต่ยังสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ เช่น หุ่นยนต์บริการภายในบ้าน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างระบบนิเวศ AI ภายในบ้านอย่างต่อเนื่อง
 

•    ประสบการณ์ใหม่ (New Experiences): บริการใหม่ ๆ เช่น เกมบนคลาวด์ การค้าสด และ AI ที่ใช้ค้นหารูปภาพและวิดีโอกำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริการเหล่านี้มีข้อกำหนดด้านคุณภาพเครือข่ายที่สูง เช่น ความหน่วง (latency) แบนด์วิดท์อัปลิงก์ (uplink) และดาวน์ลิงก์ (downlink) และการสั่นสะเทือน (jitter) ของเครือข่าย ซึ่งเปิดโอกาสใหม่ให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างรายได้ผ่านโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การคิดค่าบริการตามความหน่วง การคิดค่าบริการตามแบนด์วิดท์อัปลิงก์ และการคิดค่าบริการตามฟังก์ชัน AI เพื่อให้ได้ประสบการณ์การบริการที่มีคุณภาพสูง จำเป็นต้องมีเครือข่ายที่มีคุณภาพสูง ผู้ให้บริการสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพสูงทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน เพื่อรองรับประสบการณ์บริการคุณภาพสูงและการสร้างรายได้จากธุรกิจ โดยกุญแจสำคัญของการสร้างเครือข่ายที่มีคุณภาพสูงทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน คือ การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลภายในเวลา 1 มิลลิวินาทีและการเข้าถึงศูนย์ข้อมูลภายในเวลา 1 มิลลิวินาที

•    การดำเนินงานใหม่ (New Operation): เนื่องจากขนาดเครือข่ายของผู้ให้บริการมีขนาดใหญ่ขึ้น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเครือข่ายจึงมีความสำคัญมากขึ้น AI สนับสนุนการขับเคลื่อนอัตโนมัติเครือข่ายระดับสูง และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของเครือข่าย โดยเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ L4 ของหัวเว่ยที่พัฒนาจาก Telecom Foundation Model ช่วยให้ผู้ให้บริการลดการร้องเรียนของลูกค้า ย่นเวลาการปิดคำร้อง เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ลดจำนวนการเข้าตรวจสอบสถานี และเร่งการแก้ไขปัญหาต่างๆ

ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะ กลยุทธ์ 4 ใหม่ ไม่เพียงเป็นการสะท้อนถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเครือข่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างมูลค่าทางธุรกิจเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดย ฮับใหม่ บริการใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และ การดำเนินงานใหม่ ต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน และร่วมกันสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในยุคดิจิทัลอัจฉริยะ

ในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้า ร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตรทั่วโลกเพื่อสำรวจยุคดิจิทัลอัจฉริยะ เร่งการปลดล็อกมูลค่าทางธุรกิจของ Network+AI และมุ่งสู่โลกอัจฉริยะที่รุ่งเรือง