posttoday

กทม. คุมความเร็ว 60 กม./ชม. ลดเสี่ยงตาย 3 เท่า เพื่อถนนปลอดภัย

26 ธันวาคม 2567

กทม. แถลงมาตรการจำกัดความเร็วรถยนต์เหลือ 60 กม./ชม. หวังลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 3 เท่า พร้อมใช้เทคโนโลยีกล้องจับความเร็วเพิ่มบทลงโทษ เผยแผนพัฒนาถนนปลอดภัย เน้นชุมชนและจุดเสี่ยงสำคัญทั่วเมือง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร่วมกับคณะผู้บริหารและที่ปรึกษา แถลงมาตรการจำกัดความเร็วรถยนต์ในเขตกรุงเทพมหานครให้ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดโอกาสการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน  

ลดความเร็ว ลดความสูญเสีย
นายชัชชาติระบุว่า จากการศึกษาพบว่า การลดความเร็วจาก 80 km/h เหลือ 60 km/h จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 3 เท่า โดยมีข้อมูลจากการชนที่ความเร็วต่างกัน พบว่าที่ความเร็ว 60 km/h ความเสี่ยงเสียชีวิตอยู่ที่ 20% แต่เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 80 km/h ความเสี่ยงจะพุ่งสูงถึง 60%  

กทม. คุมความเร็ว 60 กม./ชม. ลดเสี่ยงตาย 3 เท่า เพื่อถนนปลอดภัย

"การลดความเร็วไม่ใช่แค่ป้องกันการเสียชีวิต แต่ยังเป็นการเคารพชีวิตผู้อื่น และส่งเสริมความปลอดภัยในสังคมเมือง” นายชัชชาติกล่าว  

กรุงเทพมหานครปรับมาตรการจำกัดความเร็วรถยนต์ หวังลดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน  

กทม. คุมความเร็ว 60 กม./ชม. ลดเสี่ยงตาย 3 เท่า เพื่อถนนปลอดภัย

มาตรการเสริมและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน  
กทม. ยังได้ดำเนินโครงการอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เช่น  
- ติดตั้งไฟส่องสว่างกว่า 90,000 ดวง  
- ปรับปรุงทางม้าลายให้เด่นชัดขึ้นกว่า 1,000 แห่ง  
- ปรับจุดเสี่ยงอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ กว่า 100 จุด  

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในกรุงเทพฯ ลงได้ถึง 9% และมีผลให้อัตราการตายในระดับประเทศลดลง 1%  

กทม. คุมความเร็ว 60 กม./ชม. ลดเสี่ยงตาย 3 เท่า เพื่อถนนปลอดภัย

สถิติและแนวโน้มที่ต้องเฝ้าระวัง  
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า แม้จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะมีแนวโน้มลดลง แต่ยังมีความท้าทายจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การขับเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และการดื่มแล้วขับ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง  
 

กทม. คุมความเร็ว 60 กม./ชม. ลดเสี่ยงตาย 3 เท่า เพื่อถนนปลอดภัย

โดยเฉพาะในปี 2566 มีผู้เสียชีวิตจากการขับรถเร็วถึง 268 ราย แม้แนวโน้มในปี 2567 จะลดลงเหลือ 165 ราย แต่ยังถือว่าต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง  

เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของเมือง  
การลดความเร็วบนถนนไม่ได้เพียงช่วยลดการสูญเสียชีวิต แต่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม นายชัชชาติย้ำว่า “การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 1 ราย ส่งผลกระทบต่อ GDP ของประเทศกว่า 1%”  

กทม. จะยังคงพัฒนามาตรการใหม่ เช่น การใช้เทคโนโลยีกล้องตรวจจับความเร็วและเพิ่มบทลงโทษ เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงและสร้างวัฒนธรรมการขับขี่อย่างปลอดภัยในระยะยาว  

สังคมปลอดภัย เริ่มต้นที่ทุกคนร่วมมือ  
มาตรการนี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อบังคับ แต่เป็นการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของชีวิตในทุกมิติ เพื่อให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน