ผ่าโมเดล "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ตั้งเป้าชิงเปิดก่อนโอซาก้า
เปิดลิสต์ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ชี้สะดวกครบครัน ยัน “กาสิโน” มีเอี่ยว 3-5% คนไทยเก็บค่าเข้า 5,000 บาท เป้าหมายเปิดบริการภายใน 2572 ก่อนโอซาก้า
หลังครม.ไฟเขียว พ.ร.บ. "เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ยืนยันมี “กาสิโน” เอี่ยวแค่ 3-5% กระแสต่างๆ ก็ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทางเพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนโดยเฉพาะเรื่องของการพนันในสังคมไทย แต่อย่างไรก็ตาม การพนันใต้ดิน หรือ ธุรกิจสีเทา ก็มีบทบาทในด้านมืดมาโดยตลอดในสังคมไทยชนิดที่ถ้าไม่ขุดรากถอนโคนขึ้นมา “หลายฝ่าย” ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกันต่อไป จริงหรือไม่กับคำถามที่เกิดขึ้นว่า แท้แล้วรากเหง้าของปัญหาอาชญากรรมคือสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในโลกมืดต่างหาก?
“ผมขอย้ำว่า เงื่อนไขการลงทุนนั้น จะเป็นการก่อสร้างใหม่ในพื้นที่ใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐ มีขนาดที่ดินราว 300 ไร่ จะมีทั้งโรงแรมมากกว่า 4-5 แห่ง 5,000 ห้อง มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ และจัดคอนเสิร์ตได้ตลอดทั้งปี หรือกิจกรรมการอื่นๆ ขณะที่ส่วนของกาสิโนนั้น จะมีเพียง 3-5% เท่านั้น เพราะฉะนั้นการลงทุนแต่ละแห่ง จะใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี โดยปีที่ 3 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะให้เปิดบริการภายใน 2572 ก่อนที่ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในเมืองโอซาก้าจะเปิดบริการในปี 2573 - นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
“คลัง” ยืนยันต้องเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้ "โครงการสถานบันเทิงครบวงจร" จะต้องเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด ไม่สามารถต่อยอดจากโครงการเดิมได้ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่แท้จริง โดยจะเน้นการพัฒนาบนที่ดินของรัฐ และต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยทำเลที่นักลงทุนให้ความสนใจมีหลายแห่ง อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
รูปแบบการลงทุนเบื้องต้นจะเป็นการเปิดประมูล โดยต้องการให้ผู้เข้าประมูลเป็นกิจการค้าร่วม (Consortium) ที่มีทั้งบริษัทไทยและต่างชาติ ซึ่งต้องจดทะเบียนในไทยและมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท รวมทั้งเป็นการลงทุนใหม่ทั้งโครงการ โดยเสนอแผนการลงทุนที่ประกอบด้วยกิจกรรมสถานบันเทิงครบวงจรร่วมกับกาสิโน และประเมินการลงทุนขั้นต่ำแห่งละ 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีต้นทุนหรือการใช้จ่ายในการปฏิบัติตามและบังคับการให้เป็นไปตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในระยะ 3 ปีแรก เป็นจำนวน 300 ล้านบาท และอัตรากำลังที่ต้องใช้ในสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร จำนวน 50 อัตรา
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ระดับโลก 6-7 ราย แสดงความสนใจที่จะลงทุนสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน
คาดประกาศใช้กฎหมายได้ต้นปี 2569
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้ประเมินกรอบเวลาการขับเคลื่อนนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยหลังจาก ครม.เห็นชอบในหลักการและส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจจะใช้เวลา 45 วัน ก่อนที่จะเสนอกลับมาที่ ครม.และเสนอต่อรัฐสภาในเดือน มี.ค.2568 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 9 เดือน ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมายในไตรมาส 1 ปี 2569
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามกรอบเวลาดังกล่าวจะทำให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ศึกษาพื้นที่และประกาศเงื่อนไขการลงทุนได้ในปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดประมูลและคาดว่าเริ่มก่อสร้างในปี 2570 ก่อนที่รัฐบาลจะครบวาระ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปี
คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะเป็นผู้กำหนดพื้นที่รองรับการลงทุน โดยจะมีการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่การลงทุนที่พิจารณาจากหลายประเด็น เช่น
1.พื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมาะสม เช่น ด้านคมนาคม
2. พื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
3.พื้นที่ของรัฐที่จะทำให้รัฐได้ค่าเช่าจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งขนาดของพื้นที่อาจจะไม่ต่ำกว่า 300 ไร่
อัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท
*ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
ภายใน "โครงการสถานบันเทิงครบวงจร" (Entertainment Complex) ประกอบด้วย:
- โรงแรมมากกว่า 4-5 แห่งจำนวน 5,000 ห้อง
- ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ
- สนามกีฬาในร่มความจุ 10,000-16,000 ที่นั่ง
- คอนเสิร์ตฮอลล์มาตรฐานระดับโลก
- ศูนย์การค้าและร้านค้าปลอดภาษี
- สวนสนุกและพื้นที่จัดแสดงศิลปะ
- **มีพื้นที่ส่วนของกาสิโน 3-5%
บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก 6 ราย แสดงความสนใจเข้ามาลงทุน
1.Las Vegas Sands 2.กลุ่ม Wynn Resorts 3.กลุ่ม Caesars Entertainment 4.กลุ่ม MGM China Holdings Limited 5. กลุ่ม Hard Rock Café 6.Melco Resorts & Entertainment ผู้ดำเนินการกาสิโนในมาเก๊า
หมายเหตุ:
การลงทุนแต่ละแห่ง จะใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3-5 ปี โดยปีที่ 3 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้
เป้าหมายเปิดบริการภายในปี 2572 ก่อนที่ศูนย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในเมืองโอซาก้าจะเปิดบริการในปี 2573