Entertainment Complex โมเดลชาติหัวแถว ที่ไทยเดินตามรอยไม่ครบ?

Entertainment Complex โมเดลชาติหัวแถว ที่ไทยเดินตามรอยไม่ครบ?

20 มีนาคม 2568

นักวิชาการชี้ “ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์“ ไทย ขาดกลไกเยียวยาคนติดพนัน เสี่ยงสร้างปัญหาสังคมหนักกว่าเดิม ชี้ศึกษาโมเดลจากสิงคโปร์ แต่เดินรอยตามไม่ครบ

KEY

POINTS

  • นักวิชาการติงร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทยไม่มีมาตรการรองรับการเยี

ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในประเทศไทย กำลังถูกจับตามองจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการที่กังวลว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ขาดกลไกในการเยียวยาและบำบัดผู้ที่อาจติดการพนัน รวมถึงการจัดการผลกระทบเชิงสังคมที่อาจตามมา หากไม่มีมาตรการป้องกันและควบคุมที่ชัดเจน

 

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน

 

บทเรียนจากสิงคโปร์ที่ไทยเดินตามรอยไม่ครบ

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวในงานเสวนาโต๊ะกลมหัวข้อ "Entertainment Complex: Game Changer for Thailand" โดย "กรุงเทพธุรกิจ" เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ว่าร่างกฎหมายนี้มีต้นแบบจากความสำเร็จของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาโครงการคาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ได้โดยควบคุมความเสี่ยงทางสังคมได้ดี อย่างไรก็ตาม กฎหมายของไทยกลับไม่นำกลไกการป้องกันความเสี่ยงทั้งหมดจากสิงคโปร์มาปรับใช้

 

สิงคโปร์มีกลไกเข้มงวดในการป้องกันผลกระทบ เช่น การเก็บค่าเข้าเพื่อจำกัดกลุ่มเป้าหมาย และการตรวจสอบประชากรอย่างละเอียด โดยห้ามประชาชนกว่า 300,000 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มเปราะบางเข้าสถานคาสิโน

 

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมี “สภาแห่งชาติว่าด้วยปัญหาจากการพนัน” (National Council on Problem Gambling) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 เพื่อทำหน้าที่ป้องกันและเยียวยาปัญหาจากการพนัน ควบคู่กับการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อป้องกันการติดพนันตั้งแต่ต้นทาง

 

“สิ่งที่น่ากังวลมากในร่างกฎหมายฉบับนี้ คือไม่มีการกำหนดมาตรการเยียวยาและบำบัดผู้ติดพนันเลย” รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว

 

“เราต้องยอมรับว่าประเทศที่เปิดธุรกิจกาสิโน ส่วนใหญ่พบปัญหาคนในประเทศติดพนันเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถามสำคัญคือ เราจะจัดการกับผลกระทบทางสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างไร”

 

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

 

3 จุดเสี่ยงนำไปสู่คอร์รัปชัน

ด้านนายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้ความเห็นในเชิงวิชาการว่า หากประเทศไทยเดินหน้ากฎหมายฉบับนี้โดยไม่มีการควบคุมที่รัดกุม อาจนำไปสู่ปัญหาคอร์รัปชันได้ง่าย โดยมี 3 ปัจจัยหลักที่ต้องระวัง ได้แก่

 

1. การผูกขาด (Monopoly) การอนุญาตให้มีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายจะนำไปสู่การผูกขาด และเกิดการเอารัดเอาเปรียบทั้งผู้บริโภคและรัฐ

2. การใช้ดุลพินิจ (Discretionary) การตั้งคณะกรรมการที่มีอำนาจตัดสินใจสูง อาจเปิดช่องให้เกิดการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการเลือกพื้นที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งอาจเอื้อผลประโยชน์ให้บางกลุ่ม

3. ความน่าเชื่อถือ (Accountability) การจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลควรมีความโปร่งใส และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ หากคณะกรรมการขาดความรับผิดชอบ หรือถูกแทรกแซงทางการเมือง อาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งระบบ

 

“ผมเห็นด้วยกับนักวิชาการท่านอื่น ๆ ว่า ควรมีการทำประชามติ โดยเฉพาะคนในพื้นที่ต้องมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น” นายนณริฏกล่าว

 

“รัฐบาลจำเป็นต้องมีรายงานข้อกังวลที่เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแผนรับมือที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน”

 

ความกังวลเรื่องการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว

นายนณริฏยังชี้ให้เห็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ เรื่อง “Over Tourism” หรือการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เหล่านี้เริ่มจะไม่รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้

 

“ถ้าจะลงทุนสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใหม่ ควรเลือกพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้วในภูมิภาคต่าง ๆ แทนที่จะกระจุกอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลัก” เขาเสนอแนะ

 

นอกจากนี้ รายงานของ TDRI ยังระบุถึงความจำเป็นในการ ป้องกันการฟอกเงิน ภายในกาสิโน ซึ่งต้องมีกลไกตรวจสอบเข้มงวด พร้อมการแข่งขันการขอใบอนุญาตที่โปร่งใส และเลือกผู้ประกอบการที่ให้ผลประโยชน์แก่ประเทศมากที่สุด

 

เสียงสะท้อนที่รัฐบาลต้องฟัง

จากมุมมองของนักวิชาการหลายฝ่าย สะท้อนให้เห็นว่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทยยังขาดความสมบูรณ์ในหลายประเด็น โดยเฉพาะกลไกป้องกันและเยียวยาผู้ติดพนัน รวมถึงการควบคุมปัญหาทางสังคม คอร์รัปชัน และผลกระทบจากการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว

 

เสียงเรียกร้องสำคัญคือ การจัดทำประชามติ เพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะคนในพื้นที่ ได้แสดงความคิดเห็นก่อนการเดินหน้ากฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กลายเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ  ไม่ใช่สร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม

 

 

ข้อมูลอ้างอิง: กรุงเทพธุรกิจ

Thailand Web Stat