
ไมเนอร์ โฮเทลส์ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ เสริมแกร่งสู่อนาคตโรงแรมโลก
ย้อนกลับไปในปี 2521 วันที่ วิลเลียม อี. ไฮเน็ค จุดประกายฝันด้วยการเข้าซื้อโรงแรม Royal Garden Resort ในพัทยา วันนั้นใครจะคิดว่าเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ แห่งความมุ่งมั่นจะเติบโตกลายเป็น ไมเนอร์ โฮเทลส์ ผู้นำระดับโลกที่มีโรงแรมกว่า 560 แห่งใน 58 ประเทศ
การพัฒนาแบรนด์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา แต่เป็นการสะท้อนถึงเส้นทางอันยาวไกล จากก้าวแรกที่เต็มไปด้วยความหวัง สู่การขยายปีกด้วยแบรนด์ลักชัวรีอย่าง อนันตรา และไลฟ์สไตล์อย่าง อวานี รวมถึงการโอบรับโรงแรมในตำนานอย่าง เอเลวาน่า ทิโวลี โอ๊คส์ และ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ทุกย่างก้าวคือเรื่องราวของความทุ่มเท ที่วันนี้พร้อมสานต่อสู่ความฝันใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ล่าสุดไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) ประกาศรีแบรนด์ครั้งสำคัญในรอบ 50 ปี โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล การพัฒนาโปรแกรมสมาชิก และกลยุทธ์การขายที่แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มโรงแรมใหม่อีก 300 แห่ง ภายในปี 2570 พร้อมเปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของโรงแรมอิสระและนักเดินทางที่ต้องการประสบการณ์เฉพาะตัว
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับโลก ซึ่งเป็นการปูทางการขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 300 แห่ง ภายในปี 2570 อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดจากการเข้าซื้อกิจการ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NH Hotel Group) ในปี 2561 ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานภายใต้ชื่อ Minor Hotels Europe & Americas ที่เป็นส่วนช่วยขยายขอบเขตธุรกิจของกลุ่มให้เติบโตขึ้นถึงสามเท่าบนเวทีโลก
มร. เอียน ดิ ทูลลิโอ (Ian Di Tullio) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า “การรีแบรนด์ครั้งนี้ไม่เพียงแค่สร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้กับ ไมเนอร์ โฮเทลส์ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการที่จะมอบประสบการณ์การบริการที่เหนือระดับในทุกมิติให้กับแขกผู้ใช้บริการ ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบใหม่ โปรแกรมสมาชิกที่ใช้งานง่าย และกลยุทธ์ช่องทางการขายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจของเจ้าของโรงแรมและนักลงทุน การรวมแบรนด์โรงแรมทั้งหมด มาไว้ภายใต้แบรนด์หลัก ไมเนอร์ โฮเทลส์ ช่วยให้เราก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเติบโต ที่จะทำให้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กลายเป็นที่จดจำในหมู่นักเดินทางเช่นเดียวกับที่ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรของเรา”
เอียน ดิ ทูลลิโอ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์
แนวคิดหลักในการปรับโฉมหน้าแบรนด์ใหม่นี้ คือการมอบสิ่งสำคัญที่สุดให้กับแขก ทีมงาน นักลงทุน เจ้าของโรงแรม และพันธมิตรทางธุรกิจ กลยุทธ์ในการรวมโรงแรมในเครือทั้ง 8 แบรนด์ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้แก่
- อนันตรา (Anantara)
- อวานี (Avani)
- เอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection)
- เอ็นเอช (NH)
- เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection)
- นาว (nhow)
- โอ๊คส์ (Oaks)
- ทิโวลี (Tivoli)
รวมถึงประสบการณ์การเดินทางอื่น ๆ มาไว้ภายใต้แบรนด์หลักซึ่งก็คือ ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความโดดเด่นของกลุ่มโรงแรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในสายตาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
New brand identity อัตลักษณ์แบรนด์ใหม่
ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ที่สดใสภายใต้แนวคิด "What Matters Most" โดยมีโลโก้ใหม่ที่ใช้หัวลูกศรในตัว "M" เป็นสัญลักษณ์ของการนำทางและการค้นพบ พร้อมสีสัน ฟอนต์ และสไตล์ภาพถ่ายที่โดดเด่น ซึ่งจะปรากฏในทุกช่องทางทั้งดิจิทัล มือถือ การตลาด และภายในโรงแรม เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า พันธมิตร และพนักงาน แม้ปรับโฉมแบรนด์หลัก โรงแรมในเครือยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ แต่ได้ประโยชน์จากโครงสร้างใหม่ที่แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ลักชัวรี พรีเมียม และเซเลกต์ เพื่อให้แขกเลือกได้ตรงใจ พร้อมแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่สองแบรนด์ในปีนี้ เพื่อขยายโอกาสให้แขกและเจ้าของโรงแรม
Upgraded digital experience ประสบการณ์ดิจิทัลที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้ปรับโฉมหน้าเว็บไซต์ minorhotels.com โดยเปลี่ยนจากเดิมที่เน้นข้อมูลองค์กรและการพัฒนา มาเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคโดยเฉพาะ โดยจะเป็นครั้งแรกที่แขกสามารถจองที่พักจากโรงแรมในเครือกว่า 560 แห่ง รวมถึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ได้ครบจบภายในเว็บไซต์เดียว
นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชันมือถือใหม่ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่รวมทุกแบรนด์ในเครือเข้าไว้ด้วยกัน แทนแอปพลิเคชันแยกตามแบรนด์โรงแรม โดยนักเดินทางสามารถใช้แอป Minor Hotels เพื่อทำการจอง จัดการการจอง ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางต่าง ๆ รวมถึงติดต่อทีมโรงแรมและขอรับบริการต่าง ๆ ระหว่างการเข้าพักผ่านแอปพลิเคชันเดียวอีกด้วย
ทางกลุ่ม ยังจะพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานและเพิ่มความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ MinorHotels.com และแอปพลิเคชัน Minor Hotels ที่รวมห้องอาหาร สปา และเวลเนส ไว้ด้วยกันกับห้องพักในที่เดียว โดยนำความชอบและข้อเสนอแนะจากลูกค้ามาใช้ในการพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น
สมาชิกภายใต้ Minor DISCOVERY ที่ใช้งานง่ายขึ้น
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกผ่านโปรแกรมสะสมคะแนนของกลุ่มพันธมิตรโรงแรมสากล (Global Hotel Alliance: GHA) โดยใช้ชื่อใหม่ Minor DISCOVERY ซึ่งจะมาแทนโปรแกรมสมาชิกเดิมของแต่ละแบรนด์โรงแรม ได้แก่ Anantara DISCOVERY, Avani DISCOVERY, NH DISCOVERY, Oaks DISCOVERY, Elewana DISCOVERY และ Tivoli DISCOVERY การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้สมาชิกสามารถเข้าถึงหนึ่งในโปรแกรมสะสมคะแนนของโรงแรมที่โปร่งใสและให้รางวัลคุ้มค่าที่สุดได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยยังคงสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกเหมือนเดิม รวมถึงการได้รับเงินคืน 4-7% ในรูปแบบ DISCOVERY DOLLARS (D$1 = US$1) พร้อมราคาพิเศษสำหรับสมาชิก ข้อเสนอพิเศษจากโรงแรมในเครือ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับสมาชิกระดับสูง ซึ่งสามารถเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย
เพื่อฉลองการเปิดตัวโปรแกรม Minor DISCOVERY สมาชิกใหม่สามารถรับ DISCOVERY DOLLARS มูลค่า $100 ได้ เพียงเข้าพักที่โรงแรมในเครือ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ครบสองครั้ง ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชัน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ minorhotels.com
ข้อเสนอใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้า B2B
นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ Minor PRO สำหรับกลุ่มลูกค้า B2B ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ บริการ และการสื่อสารทั้งหมดสำหรับธุรกิจ นักวางแผนอีเวนต์ และตัวแทนท่องเที่ยว โดยเป็นการรวมแพลตฟอร์มเดิมของแต่ละแบรนด์ เช่น NH PRO, Anantara Journeys และ Oaks Professionals ไว้ในที่เดียว เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มมืออาชีพเพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกยิ่งขึ้น
มร. ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
มร. ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “การรีแบรนด์ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของเราในช่วงกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่สร้างการเติบโตทางด้านรายได้และผลกำไร แต่ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเราในด้านความหลากหลาย ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพของทีมงาน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว และลงทุนเพื่อยกระดับประสบการณ์ของแขกผู้เข้าพัก การรวมทุกแบรนด์โรงแรมและประสบการณ์การท่องเที่ยวทั้งหมดไว้ภายใต้ชื่อ ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในอุตสาหกรรมการบริการ และสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของเราให้สำเร็จลุล่วง”