Green Hub ขยายเครือข่าย สร้างมูลค่าขยะ พลิกโฉมเศรษฐกิจหมุนเวียน
ไปรษณีย์ไทยและพันธมิตรเดินหน้าขยายโครงการ Green Hub เพิ่มจุดรับขยะ ส่งเสริมรีไซเคิล-อัปไซเคิล เปลี่ยนของเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ไปรษณีย์ไทยจับมือ 5 พันธมิตรภาคเอกชน ขยายเครือข่ายโครงการ ‘Green Hub’ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะ ส่งเสริมการรีไซเคิลและอัปไซเคิล ลดของเสียและสร้างมูลค่าใหม่ให้กับทรัพยากรที่ใช้แล้ว โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบคัดแยกขยะ และสร้างโอกาสให้ขยะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสังคม
โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทยและพันธมิตร 5 ราย ได้แก่ SCGP, TPBI, GC, AIS และ HMC Polymers ซึ่งแต่ละองค์กรมีบทบาทสำคัญในการนำขยะประเภทต่างๆ กลับเข้าสู่กระบวนการผลิต เช่น กล่องและซองกระดาษที่นำไปทำเป็นกล่องไปรษณีย์พลาสติกยืดประเภท PE ที่แปรรูปเป็นถุงขยะ รวมถึงขวด PET และ PP ที่สามารถนำไปผลิตเป็นเสื้อนักเรียนและสิ่งของที่เป็นประโยชน์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีการรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อนำไปกำจัดและรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
โครงการ Green Hub มุ่งเน้นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะได้ง่ายขึ้น โดยได้จัดตั้งจุดรับขยะนำร่อง 50 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และบางจังหวัดในต่างจังหวัด พร้อมขยายเครือข่ายร่วมกับองค์กรภาคสังคม เช่น กลุ่มมือวิเศษกรุงเทพ เพื่อเข้าถึงชุมชนและกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยว่า โครงการ “Green Hub” เป็นการต่อยอดจากแคมเปญ “reBOX” ภายใต้แนวคิด “เส้นทาง…ความร่วมมือ รักษ์โลกไปรฯ ด้วยกัน” มุ่งเน้นการเชื่อมโยงชุมชน สร้างโอกาสทางธุรกิจ และพัฒนาการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการรีไซเคิลและอัปไซเคิล เพื่อลดคาร์บอนและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยตลอดโครงการสามารถรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ได้กว่า 644,449 กิโลกรัม
นอกจากการบริหารจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว โครงการยังมุ่งลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความสำเร็จจากแคมเปญ ‘reBOX’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้มากกว่า 640 ตัน ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน
ไปรษณีย์ไทยและพันธมิตรจึงขอเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่มีการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Thailand Post หรือเว็บไซต์ทางการของไปรษณีย์ไทย