เปิดจุดแข็ง “ท่าเรือคลองเตย” เขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ ดึงทุนแสนล้าน
การท่าเรือรุกปั้นพื้นที่คลองเตย 2,353 ไร่ สู่เขตเศรษฐกิจพิเศษกรุงเทพฯ เผยใช้พื้นที่บางส่วนของท่าเรือเป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์"!
ย่านคลองเตยซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองหลวง เมื่อล่าสุด การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เปิดแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยให้กลายเป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” โดยมีพื้นที่กว่า 2,353 ไร่ พร้อมวางเป้าหมายดึงดูดการลงทุนมูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านบาท เพื่อเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์จากท่าเรือขนส่งสินค้าแบบดั้งเดิมสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ เมืองอัจฉริยะ และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และความบันเทิงครบวงจรระดับโลก
จาก “ประตูการค้า” แห่งอดีต สู่อนาคตที่เปลี่ยนแปลง
ท่าเรือคลองเตยถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 80 ปี เริ่มก่อตั้งขึ้นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อรองรับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทางน้ำของประเทศไทย ซึ่งในเวลานั้นท่าเรือคลองเตยคือท่าเรือพาณิชย์หลักของประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่โลจิสติกส์ทางเรือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการค้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไป พร้อมกับการขยายตัวของเมือง และการเกิดขึ้นของท่าเรือแหลมฉบังในภาคตะวันออก ท่าเรือคลองเตยเริ่มลดบทบาทลงจากเวทีหลักของการขนส่งสินค้า โดยมีการใช้งานที่จำกัดมากขึ้น และมีสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
ด้วยเหตุนี้ กทท.จึงเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีทั้งทำเลทองใจกลางเมือง และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในการยกระดับและฟื้นฟูท่าเรือคลองเตยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในบทบาทใหม่ของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่าง “อดีตอันรุ่งเรือง” กับ “อนาคตที่สดใส”
แนวคิดพัฒนา: 3 เสาหลัก และ 3S แห่งอนาคต
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาใหญ่ครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 2,353 ไร่ของท่าเรือคลองเตย โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านโลจิสติกส์และเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาเมือง และด้านการพัฒนาชุมชน
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค แผนพัฒนาดังกล่าวจึงถูกวางอยู่บนแนวคิด “3 Smart” หรือ 3S ประกอบด้วย
1. Smart & Green Port
การพัฒนาท่าเรือให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการสำคัญ อาทิ
-ศูนย์กระจายสินค้า Bangkok Logistics Park
-Terminal 3 ท่าเรืออัตโนมัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้า
-ทางเชื่อมต่อพิเศษ S1 เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างท่าเรือกับโครงข่ายทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์
2. Smart Commercial
พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อดึงดูดการลงทุนในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะโครงการ mixed use เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ท่าเทียบเรือสำราญ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดเรือสำราญขนาดใหญ่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
3. Smart Community
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการพัฒนาคือ การไม่ทิ้งชุมชนเดิม แต่กลับยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนคลองเตย ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวสูง (Vertical Smart Community) พร้อมศูนย์ฝึกอาชีพ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมทักษะแรงงานของชุมชน
โครงการ "เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" จุดเปลี่ยนของเมือง
หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่รัฐบาลผลักดัน คือ โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งรวมถึงกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ การแสดง วัฒนธรรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลเตรียมนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งพื้นที่บางส่วนของท่าเรือคลองเตยจะถูกใช้เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ
การเปิดพื้นที่สำหรับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้าน Soft Power ของประเทศไทยในระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อผนวกกับโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์และระบบเมืองอัจฉริยะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
การพัฒนาท่าเรือคลองเตยในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ “การปรับปรุงพื้นที่ท่าเรือเก่า” แต่เป็นการยกระดับสู่ความเป็น “มหานครแห่งอนาคต” ที่เชื่อมต่อทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของกรุงเทพฯ เข้าด้วยกัน โดยมีชุมชน ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจเป็นแกนกลางของการเติบโตที่สมดุลและยั่งยืน
หากแผนทั้งหมดเป็นไปตามที่วางไว้ อีกไม่นาน คำว่า “คลองเตย” อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเขตในใจกลางกรุงเทพฯ แต่จะกลายเป็นชื่อของ “เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่” ที่ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ