เปิดตัว 'Mobile School' การศึกษาที่ตอบโจทย์ทุกคน ทุกที่ 24 ชั่วโมง!
กสศ.เปิดตัวการเดินทางครั้งแรกของ 'Mobile School' นำการศึกษาไปหาเด็กที่ออกจากระบบหรือเข้าเรียนไม่ได้ เน้นเรียนผ่านการทำงาน ให้หน่วยกิตจากประสบการณ์และการทำงาน ชูเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา 24 ชั่วโมง ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทุกเงื่อนไขชีวิต โดยเปิดรับสมัครเสาร์นี้!
กสศ. หรือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เปิดตัวการเดินทางครั้งแรกของโครงการ Mobile School การศึกษาที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ชีวิต เปิดรับสมัคร เด็กและเยาวชนที่ออกจากระบบการศึกษาให้กลับมาเรียนต่อ ช่วงชั้นป.6 ม.ต้น และม.ปลาย วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 – 15.00 น. โดมลานกีฬาของชุมชนคลองเตยล็อก 4-5-6
- Mobile School น่าสนใจอย่างไร ?
* ห้องเรียนแนวใหม่ ตอบโจทย์ทุกเงื่อนไขชีวิต จัดการศึกษาโดยเครือข่ายศูนย์การเรียน โดยสถาบันทางสังคม ร่วมกับแหล่งเรียนรู้มากมาย
* Learn to Earn เรียนรู้ผ่านการทำงาน
---- ประสบการณ์ และงานที่ทำอยู่ จะเทียบโอนเป็นหน่วยกิตได้
---- ทางเลือกงานสร้างรายได้ใหม่ๆ ได้ประโยชน์ 2 ต่อ เพิ่มรายได้และเทียบโอนความรู้ ประสบการณ์เป็นหน่วยกิต สะสมเป็นวุฒิการศึกษา
* เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
- Anywhere Anytime เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา 24 ชั่วโมง ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทุกเงื่อนไขชีวิต
ในงานจะได้พบกับอะไรบ้าง ?
* เปิดมุมมองมองทางเลือกอาชีพใหม่ๆ
* มุมที่ปรึกษา ช่วยกันออกแบบเส้นทางการศึกษายืดหยุ่นตอบโจทย์ชีวิต
* เลือกหลักสูตรที่สนใจ ดีไซน์แผนและตารางเรียนของตัวเอง ตามเงื่อนไขชีวิตจริง
* แบ่งปันประสบการณ์จากเพื่อน พี่ น้อง
* สมัครเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
* ธนาคารโอกาส และศูนย์แบ่งต่อ มูลนิธิกระจกเงา สนับสนุนอุปกรณ์และสื่อเพื่อการเรียนรู้
ริเริ่ม โดย กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เครือข่ายศูนย์การเรียนโดยสถาบันทางสังคม ตามมาตรา 12 แห่งพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 โดยได้รับการสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ จาก กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย ALL FOR EDUCATION ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ชุมชน
- Thailand Zero Dropout นโยบายช่วยเหลือเด็กหลุดจากระบบ 1.02 ล้านคนกลับมาเรียน
โครงการ Mobile School เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand Zero Dropout ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าสำคัญในประวัติศาสตร์ของระบบการศึกษาไทยที่รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งปัญหาการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนกว่า 1 ล้านคนนั้น ทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสและมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งยังส่งผลต่อความเหลื่อมลํ้าทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้น หากประเทศไทยสามารถพาเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ จะทำให้ผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) เติบโตได้ถึงร้อยละ 1.7 ต่อปี
โดยมาตรการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ หรือ Thailand Zero Dropout ประกอบด้วย4 มาตรการ คือ
- มาตรการค้นหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ผ่านการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- มาตรการติดตาม ช่วยเหลือ ส่งต่อ และดูแลเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาโดยบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
- มาตรการจัดการศึกษาและเรียนรู้แบบยืดหยุ่น มีคุณภาพ และเหมาะสมกับศักยภาพของเด็กและเยาวชนแต่ละราย
- มาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมจัดการศึกษาหรือเรียนรู้