posttoday

ร้อง สปสช. ค่ารักษา 30บาทรักษาทุกที่ครึ่งปีนี้ 4 พันล้าน แต่จ่ายจริง 74 ล้าน

05 สิงหาคม 2567

เครือข่ายโรงเรียนแพทย์-ชมรมรพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ยื่น “สมศักดิ์” แก้ปม สปสช.ค้างจ่ายค่ารักษาบัตรทอง บีบรพ.236 แห่ง เข้าเนื้อ จี้ของบฯ เพิ่มจ่ายตามจริง ด้าน “สมศักดิ์” ปฏิเสธไม่รู้ตัวเลข 24 รพ.ขาดทุนยับ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2567 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (ยูฮอสเนส) และชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) นำโดย รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการอำนวยการฯ และนพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ประธานชมรมรพศ./รพ.ท. พร้อมตัวแทนเครือข่ายจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีการจัดสรรงบประมาณเหมาจ่ายเพื่อบริการประชาชน 


ร้อง สปสช. ค่ารักษา 30บาทรักษาทุกที่ครึ่งปีนี้ 4 พันล้าน แต่จ่ายจริง 74 ล้าน

 

  • ค้างจ่ายบัตรทองต่อเนื่อง จนโรงพยาบาลเสี่ยงเข้าเนื้อ จี้ประมาณการณ์ตามค่าใช้จ่ายจริง

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เรามาขอความช่วยเหลือรมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการสปสช. (บอร์ด สปสช.) ในเรื่องการจัดสรรงบฯ ให้หน่วยบริการไม่สอดคล้องกับต้นทุน

เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา สปสช.ประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอกไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่ขาดไปจำนวนมากส่งผลกระทบ เนื่องจากในภาวะปกติ แม้รพ.ของรัฐจะไม่แสวงหากำไร แต่ก็ต้องมีเงินไว้พัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่งบฯ กลับไม่เพียงพอ

เช่น งบฯ ผู้ป่วยใน ให้มาเพียง 8,350 บาท ต่อหัวต่อค่าน้ำหนักสัมพัทธ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมด้วยเกณฑ์วันนอน แต่ต้นทุนจริง อย่างรพ.รัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นบาท

ส่วนต้นทุนโรงเรียนแพทย์อยู่ที่ 2.5 -3 หมื่นบาท ทั้งหมด 8 เดือน เงินก็ไม่พอแล้ว แสดงว่า เมื่อครบปีงบฯ จะจ่ายเราแค่ 4,500 บาท ยิ่งทำให้รพ.แบกรับไม่ไหว จึงต้องแบกขอความช่วยเหลือรัฐมนตรี

 

  • 30 บาทรักษาทุกที่ ซ้ำแผล ปี 67 ค้างจ่ายกว่าหลายพันล้าน

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มว่า การขับเคลื่อนนโยบายต้องดูให้รอบด้าน ครบถ้วน การที่มีนโยบายรักษาทุกที่ในปี 2566 ตั้งงบฯ 504 ล้านบาท แต่ใช้ไป 994 ล้านบาท ส่วนปี 2567 รัฐให้งบ 74 ล้านบาท แต่มีการใช้ไปแล้วถึง 4,568 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทะลุ 6 พันล้านบาท ถามว่า จะเอางบมาจากที่ไหน สปสช.เตรียมรับมืออย่างไร” รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าว 

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ดังนั้นทางออกคือ สปสช.ควรเสนองบฯ เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาจัดสรรตามต้นทุนจริงหรือใกล้เคียงต้นทุนของหน่วยบริการ 

 

  • โรงพยาบาลแบกรับ ทำหลายแห่งขาดสภาพคล่อง กว่า 236 แห่ง

ด้าน นพ.อนุกูล กล่าวว่า ที่ผ่านมารพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สปสช.จ่ายให้ไม่เต็ม โดยเฉพาะการรักษาผู้ป่วยใน ทำให้หลายแห่งขาดสภาพคล่อง

ที่อยู่ได้เพราะมีเงินบริจาค และการหาเงินจากแหล่งอื่น รวมถึงนโยบายการช่วยเหลือกันภายในเขตสุขภาพ (พี่ช่วยน้อง) ซึ่งสามารถช่วยได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

ล่าสุดเดือน มิ.ย.2567 ได้รับเงินจากสปสช.ในอัตรา 7,000 บาท ลดจากข้อตกลงเดิมที่ให้มาในอัตรา 8,350 บาท ในขณะที่ต้นทุนรพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ที่ 13,412 บาท ส่งผลกระทบต่อรายรับของรพ.

ทำให้เดือน มิ.ย. 2567 มีรพ.ถึง 236 จาก 902 แห่ง ที่ให้บริการผู้ป่วยใน ไม่ได้รับเงินชดเชยค่ารักษา เนื่องจากอัตราจ่ายปรับลดลงมาก และถูกหักเป็นเงินเดือนบุคลากรจนหมด ดังนั้นจึงขอให้ สปสช.ประกันอัตราจ่ายขั้นต่ำที่ 8,350 บาท และกรณีที่งบฯ พอให้สปสช.จัดสรรงบฯ เหลือจ่ายจากกองทุนอื่นมาช่วยเหลือ

กรณีที่ไม่สามารถชดเชยได้เพียงพอ สปสช.ต้องเป็นลูกหนี้เพื่อทำเรื่องของบฯ มาสนับสนุน ชดเชยต่อไป ที่สำคัญ ขอให้นำเงินบุคลากรออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว

 

  • 'สมศักดิ์' เตรียมนำเรื่องเข้าบอร์ด

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทินให้สัมภาษณ์หลังการรับหนังสือ ว่า จากความกังวลเรื่องงบประมาณไม่พอจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้นถึง 300-400 ล้านครั้ง ทางนพ.จเด็จ ธรรมธชอารี เลขาธิการ สปสช. จะนำเรื่องเข้าบอร์ดสปสช.ในวันนี้ (5 ส.ค.) ด้วย

ส่วนตัวได้มอบนโยบายให้หานวัตกรรมที่จะเข้ามาเพื่อช่วยให้ประชาชนเจ็บป่วยน้อยลง ก็จะช่วยให้ไม่ต้องเข้ารพ.เพิ่ม อย่างไรก็ตามจะตอบอะไรทั้งหมดตอนนี้คงไม่ได้ ก็ต้องใช้เวลา 

เมื่อถามว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางสปสช.จ่ายให้แก่โรงพยาบาลไม่ครบ จะมีวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่ช่วยกันดู 1.การเพิ่มงบประมาณ 2.ใช้นวัตกรรมช่วยลดจำนวนคนป่วยน้อยลง ซึ่งก็คงไม่เห็นผลในเร็ววัน และ 3.ดูเรื่องงบฯ ว่า เพิ่มหรือลดส่วนไหนได้บ้าง

ทั้งนี้ โรงพยาบาลไม่ควรจะขาดสภาพคล่อง  ส่วนที่มีรายงานว่ารพ.ขาดสภาพคล่อง ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่ได้เห็น.