'ภูเก็ต' ใช้ 'ดิจิทัล' เพิ่มความสะดวกบริการ 'บัตรทอง' ชี้ขยายรอบเกาะแน่!

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ไปยัง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเยี่ยมชมการนำอุปกรณ์การตรวจที่เป็นนวัตกรรมตู้คีออส (KIOSK) เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย (Body Composition) และเครื่องปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสุขภาพ Internet of Medicare Things (IoMT) มาใช้ในจัดบริการรูปแบบ Digital Healthcare ที่ดำเนินการโดย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแหลมชั่น (รพ.สต.บ้านแหลมชั่น)

• นวัตกรรมรักษาทางไกล คัดกรองผู้ป่วย และวัดองค์ประกอบร่างกาย

สำหรับ รพ.สต.บ้านแหลมชั่น ได้จัดให้มีระบบบริการที่พัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เช่น

ระบบการแพทย์ทางไกล ที่เป็นการทดลองรูปแบบการให้บริการของ อบจ.ภูเก็ต ก่อนจะขยายนวัตกรรมเหล่านี้ไปรอบเกาะภูเก็ตในอนาคต เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของประชาชน และไม่ใช่เพียงแค่ประชาชนชาวภูเก็ตเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็สามารถใช้บริการได้เช่นกัน ซึ่งช่วยปิดจุดอ่อนในเรื่องหน่วยบริการที่มีไม่เพียงพอได้ และจะช่วยยกระดับระบบสุขภาพให้ดีขึ้นด้วย

อุปกรณ์การตรวจที่เป็นนวัตกรรมตู้คีออส (KIOSK) เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย (Body Composition) ซึ่งช่วยการคัดกรองผู้ป่วย  และเมื่อคัดกรองแล้วข้อมูลที่ได้ก็สามารถเชื่อมข้อมูลเข้าสู่ระบบข้อมูลโรงพยาบาล (HIS) และศูนย์ข้อมูลของ อบจ.ภูเก็ต ซึ่งหากระบบนี้ทำสำเร็จจะสามารถขยายระบบไปสู่พื้นที่ต่างๆ ได้ 

ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวจะทำให้ประชาชนวัดน้ำหนัก ส่วนสูง ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) วัดความดัน วัดน้ำตาลในเลือด ฯลฯ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้ว หากพบว่าเข้าเกณฑ์ป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง จะมีการนำข้อมูลของผู้ป่วยมาวิเคราะห์ต่อเพื่อออกแบบการดูแลรักษา และทาง รพ.สต. จะมีการให้ประชาชนได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วยระบบแพทย์ทางไกล หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ระบบการรักษา โดยหากเป็นกลุ่มป่วยผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงสูงมาก ก็จะเป็นการวางแผนดูแลสุขภาพในเบื้องต้นด้วยตนเองควบคู่กับพบแพทย์ทางไกลต่อไป

นายวิวัฒน์ บุญช่วย ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านแหลมชั่น เปิดเผยว่า นอกจากประโยชน์ต่อบริการเชิงรับที่ รพ.สต. แล้ว ยังได้มีนำเครื่องเหล่านี้ไปไว้ในรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ เพื่อทำการตรวจคัดกรองโรคให้กับประชาชนเชิงรุกด้วย หลังพบว่าความเป็นชุมชนเมืองของ จ.ภูเก็ต และเดิมเครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่ค่อยทันสมัย ทำให้การตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนหนึ่งคนทำได้ช้า และวันหนึ่งตรวจได้ไม่มาก ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าไม่ถึงบริการคัดกรองสุขภาพ  

 “นวัตกรรมสุขภาพนี้ เข้ามามีส่วนช่วยในการคัดกรองอย่างมาก เพราะใช้เวลาไม่นาน และยังสามารถเคลื่อนย้ายชุดไปไว้ที่ชุมชนได้ รวมทั้งมีรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่เข้าถึง หมู่บ้าน ตลาดนัด แหล่งที่ประชาชนพลุกพล่าน ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการนอกสถานที่ในวัน เสาร์ และอาทิตย์ก็ทำได้เช่นกัน เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลในด้านนี้อยู่ เป็นโอกาสที่การตรวจคัดกรองทำได้เข้าถึงและรวดเร็วมากขึ้น” ผู้อำนวยการ รพ.สต. บ้านแหลมชั่น ระบุ

ด้าน นพ.บัญชา ค้าของ ที่ปรึกษา อบจ.ภูเก็ต กล่าวเสริมว่า การนำนวัตกรรมสุขภาพมายกระดับการให้บริการของ รพ.สต. นี้เป็นแนวคิดของ อบจ.ภูเก็ต ที่ต้องการยกระดับระบบสุขภาพไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเชื่อว่าจะตอบโจทย์กับบริบทประเทศไทย จึงเริ่มทำเป็นจุดเล็กๆ ก่อนที่ จ.ภูเก็ต และหาปัจจัยต่างๆ มาสนับสนุน เช่น กลไกทางการเงินของ สปสช. ฯลฯ 

“ ปัญหาที่พบในเรื่องระบบสุขภาพ คือ ประชาชนเข้าไม่ถึงโรงพยาบาลจริง เนื่องจากความแออัดไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลอำเภอ หรือ โรงพยาบาลจังหวัด ทาง อบจ. จึงเน้นไปที่การทำปฐมภูมิให้เข้มแข็ง ด้วยการสร้างนำซ่อม คัดกรองก่อนป่วยและหาความเสี่ยงโรคได้ โดยการนำเทคโนโลยีการจัดการระบบสุขภาพแบบใหม่มา” นพ.บัญชา กล่าว