posttoday

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร "บ้านรั้วเขาควาย"

14 ตุลาคม 2567

เปิดใจไขความกระจ่างครั้งแรกกับ ทิพย์ชาติ วรรณกุล (ป้าอ๊อด) คู่ชีวิต "ถวัลย์ ดัชนี" กับเบื้องลึกของผลงานยิ่งใหญ่ในอาณาจักรบ้านรั้วเขาควาย ปมมรดกพันล้าน ภาพวาดที่หายไป อะไรคือภาพจริง-ภาพปลอม! กับความจริงอีกด้านที่ไม่มีใครรู้

“ถวัลย์ ดัชนี” คือนามและกลายเป็นแบรนด์ของภาพวาดทรงพลังร้ายกาจในผืนพิภพ ไม่มีใครเหมือน ไม่มีใครทำได้เหมือน ไม่มี (ถวัลย์ ดัชนี) ที่อื่น ไม่มีชื่อภาพ ไม่มีลายเซ็นต์ในชิ้นงานขนาดใหญ่ เพราะภาพทั้งภาพคือลายเซ็นต์ของศิลปินที่ทะลุกรอบไปไกล ผู้จากเราไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง (3 กันยายน พ.ศ. 2557) แต่เรื่องราวของถวัลย์ ดัชนีและภาพวาดของเขาไม่ได้จบ ทว่ายังมีตัวตนอยู่ในกาล ท้าทายทุกงานศิลปะบนผืนผ้าใบในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าใครจะทำอะไรกับภาพวาดที่เคยเป็นลมหายใจของเขา เขาไม่อาจรับรู้ได้อีกแล้ว มีเพียงความทรงจำและหลักฐานของความรักที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น...

 

ภาพวาดที่ป้าอ๊อดระบุว่า คือภาพที่วาดเสร็จสมบูรณ์ชิ้นสุดท้ายของถวัลย์ ดัชนีก่อนเสียชีวิค

 

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า ป้าอ๊อดไม่ถูกนับจากครอบครัวทางฝั่งเชียงรายของถวัลย์ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะปมต่างๆ ก็ได้คลี่คลายไปมากแล้ว ทั้งการแบ่งสรรปันส่วนมรดกระหว่างทายาทบุตรชายเพียงคนเดียวนายดอยธิเบศร์ ดัชนี และป้าอ๊อดแม้จะมีข่าวผ่านสื่ออยู่เนืองๆ ในเรื่องปมมรดกเกี่ยวกับภาพวาดที่หายไปและเรื่องภาพจริง-ภาพปลอม!

 

เผื่อใครยังไม่รู้ ศาลตัดสินแบ่งมรดกแล้วเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ปี 2562 โดยตัดสินให้นายดอยธิเบศร์เป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว มรดกที่เหลือแบ่งสรรกันทั้งภาพวาด (แบบ50:50) และเงินในบัญชี (ทายาท60:ป้าอ๊อด40) ส่วนภาพวาดที่หายไปหลังถวัลย์เสียชีวิต (ตามที่เป็นข่าว) จำนวน 6 ภาพตามที่มีการแจ้งความ ผลการสืบสวนของคณะกรรมการสืบสวนเป็นที่รับรู้แล้วว่ามันถูกขายไปในช่วงที่ถวัลย์มีชีวิตอยู่ จึงไม่ถือว่าเป็น “ภาพหาย” ส่วนที่เหลือแม้จะยังอยู่ในกระแสสื่อแต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ว่ามีการนำภาพออกไปสู่จุดหมายปลายทางใด ใครครอบครอง หรือเกิดอะไรขึ้นใต้ผืนผ้าใบ

 

ป้าอ๊อด ทิพย์ชาติ วรรณกุล คู่ชีวิตถวัลย์ ดัชนี ในวัย 76 ปี ภายในบ้านรั้วเขาควาย

 

บ้านรั้วเขาควาย ป้าอ๊อดและถวัลย์ ดัชนี

ภายใต้ผ้าคลุมของใบหน้าแย้มยิ้มและพื้นผิวอันสงบของความชรา ความรักครั้งนั้นยังเบิกบานอยู่ในดวงตาอย่างเต็มเปี่ยม เรื่องราวใดกันเล่าจะทรงพลังพอสำหรับความเชื่อและความวางใจ โพสต์ทูเดย์ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับป้าอ๊อด ทิพย์ชาติ วรรณกุล ภายในบ้านรั้วเขาควายที่เงียบสงบและยังมีผลงานของถวัลย์โดดเด่นงามสง่าอยู่ในทุกมุมราวกับเขายังมีชีวิตอยู่ ทั้งโต๊ะทำงาน สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องประดับ กระดูกสัตว์นานาชนิด และถ่านชาโคลบนจานรอง ถูกจัดวางไว้ราวกับเจ้าของเพิ่งจะออกไปข้างนอกเมื่อครู่นี้เอง

 

สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องประดับของศิลปิน

 

แต่สิ่งหนึ่งที่นำให้เรามาในวันนี้คือ “ความกระจ่าง” ในความจริงจากอีกฟากฝั่งของเรื่องราวที่ป้าอ๊อดต้องการให้โลกรับรู้ มาเริ่มกันเลย...

 

หลายเรื่องที่คนอยากรู้ เรื่องคดีความต่างๆ จบหรือยัง

“จบไปตั้งนานแล้ว ประมาณปีพ.ศ.2562 ป้าอ๊อดอยากอยู่เงียบๆ การที่ทรัพย์มันเป็นของเราตั้งแต่แรก สุดท้ายมันก็เป็นของเรา ไม่จำเป็นต้องไปป่าวประกาศโฆษณาให้ใครได้ทราบ” คือคำกล่าวอย่างเชื่อมั่น ไม่เกรงสิ่งใดของคู่ชีวิตที่ไม่ต้องมีเหตุผลใดมาอธิบายให้มากความ

แต่วันนี้ป้าอ๊อดอยากเปิดเผยต่อโลกให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดหรือกับใครมาก่อนในเรื่องคดีความต่างๆ เกี่ยวกับมรดกพันล้านและคำตัดสินของศาล เพื่อไขข้อกระจ่างให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

 

รายละเอียดผลคดีฟ้องแบ่งทรัพย์

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดมีนบุรีได้โปรดมีคำพิพากษาตามยอมเป็นคดีหมายเลขแดงที่ พ.560/2562 สรุปคำพิพากษาโดยสังเขป ดังนี้

1.พิพิธภัณฑ์บ้านดำยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทลุงหวัน

2.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 6 หมู่บ้านนวธานี (บ้านรั้วเขาควาย) ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของป้าอ๊อด (โอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562)

3.ที่ดินพร้อมบ้านเลขที่ 170/109 หมู่บ้านเกษราคลาสสิคโฮม ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของป้าอ๊อด (โอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562)

4.ภาพวาดผลงานศิลปะที่เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทลุงหวัน

5.ภาพวาดผลงานศิลปะที่เก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 6 หมู่บ้านนวธานี (บ้านรั้วเขาควาย) ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของป้าอ๊อด(ยกเว้นภาพที่วาดก่อนปีพ.ศ.2525)

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

 

6. ภาพวาดผลงานศิลปะที่เก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 170/109 หมู่บ้านเกษราคลาสสิคโฮม แบ่งคนละครึ่งเท่าๆกัน (ยกเว้นภาพที่วาดก่อนปีพ.ศ.2525) แบ่งกันเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2562

7.เงินที่ได้จากการขายภาพวาด 2 ภาพให้กับบุคคลภายนอกแบ่งกันคนละครึ่ง

8.ภาพวาดที่ทายาทลุงหวัน อ้างว่าหายไป หากได้กลับคืนมาสู่กองมรดก ให้แบ่งกันคนละครึ่ง

9.บัญชีเงินฝากทั้งหมด แบ่งกันในอัตราส่วนร้อนละ 60 ต่อ 40 (ทายาท 60 ป้าอ๊อด 40)

10.รถยนต์มี 2 คัน แบ่งคนละคัน

11.อาวุธปืน 1 กระบอก ยกให้ทายาทลุงหวัน

12.ลิขสิทธิ์ ยกให้ทายาทลุงหวัน และป้าอ๊อดสามารถนำภาพวาดผลงานศิลปะของลุงหวัน ออกแสดงได้ทั่วโลก

ซึ่งคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว และได้มีการแบ่งทรัพย์สินกันตามคำพิพากษาเรียบร้อย ครบถ้วนถูกต้องแล้ว

 

ภาพเขียนที่ดูราวกับมีชีวิตในบ้านรั้วเขาควาย

 

“มีนักข่าวบางคนพูดอย่างสนุกปาก ว่าป้าอ๊อดไม่ได้เป็นคนวาดภาพ แล้วจะเป็นเจ้าของได้อย่างไร ร่วมกันทำมาหากินได้อย่างไร มีสิทธิในผลงานนั้นๆได้อย่างไร ป้าอ๊อดอยากถามว่า พวกคุณมาทำข่าว อ่านข่าว ภรรยาคุณมาร่วมอ่านข่าวด้วยมั๊ย ตำรวจไปจับผู้ร้ายภรรยาไปร่วมจับด้วยไหม”

 

ในส่วนคดีอาญา (ป้าอ๊อดถูกพาดพิงว่ามีส่วนในภาพที่หายไป) ผลคดีเป็นอย่างไร

คดีอาญาเกิดขึ้นช่วงที่เป็นคดีความฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินกันกว่าหนึ่งพันล้านบาท

ผลสรุปของคดี (คดีที่ 733/2560 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2560)

1.ผลการสอบสวนไม่พบการกระทำความผิด

2.ภาพของกลางทั้งหมด 6 ภาพที่อ้างว่าได้หายไปได้คืนให้กับเจ้าของเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากซื้อมาก่อนที่อาจารย์ถวัลย์เสียชีวิต

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

 

ป้าอ๊อดพอมีภาพพิมพ์ของลุงหวันไหม ขายที่ราคาเท่าไหร่ เห็นประกาศขายตาม facebook  และสื่อออนไลน์ทั่วไป

ตลอดระยะเวลาการดำเนินชีวิตของอาจารย์ถวัลย์ไม่เคยนำผลงานภาพวาดของตนเองไปก็อปปี้ ทำซ้ำและออกขาย โดยเฉพาะผลงานที่ได้ขายออกไปแล้ว  เป็นการให้เกียรติผู้ที่สะสมผลงานศิลปะ ไม่นำภาพที่ขายให้บุคคลอื่นแล้ว ไปก็อปปี้ทำซ้ำและออกขาย

ภาพวาดผลงานศิลปะ ต้องมีหนึ่งเดียว การก็อปปี้ ถ่ายสำเนา หรือ การทำซ้ำเป็นลดคุณค่าของผลงานศิลปะ ลดคุณค่าของผู้สร้างสรรค์ของผลงานศิลปะ

หากนำภาพที่ขายให้บุคคลอื่นไปแล้วนำไปก็อปปี้ ทำซ้ำและออกขาย ตามมารยาทแล้วต้องขออนุญาตเจ้าของภาพวาดผลงานศิลปะ ก๊อปปี้ภาพวาดแล้วยังไม่พอ กลับเซ็นชื่อตนเองลงในภาพวาดก๊อปปี้นั้นอีก ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นมา อันนี้แปลกประหลาด ไม่มีศิลปินคนไหนทำกัน

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

 

เรื่องการออกใบรับรองงานศิลปะ (Certificate of Authenticity) ในผลงานภาพวาดของ "ถวัลย์ ดัชนี" ที่หลายคนอยากรู้ 

มีข่าวแพร่หลายว่า หากมีการประมูลขายภาพวาดของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ทายาทผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จะเป็นผู้ออกใบรับรองยืนยันว่าเป็นภาพวาดผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี จริง หากไม่มีใบรับรองจะไม่มีใครกล้านำออกประมูลเพราะอาจเป็นของปลอม ป้าอ๊อดมีความเห็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า หากภาพวาดออกมาทางฝั่งของป้าอ๊อดจะไม่รับรองให้เพราะเป็นของปลอม

 

ป้าอ๊อดได้มีการแจกแจงและตั้งคำถามต่อเรื่องดังกล่าวดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

  • งานที่จะมีลิขสิทธิ์ได้นั้นต้องเป็นงานสร้างสรรค์ซึ่งผู้สร้างสรรค์ได้ทำหรือก่อให้เกิดขึ้นด้วยการริเริ่มของตนเองโดยใช้ความรู้ความสามารถและความวิริยะอุตสาหะจนทำให้งานนั้นสำเร็จจนถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์โดยไม่ได้ลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงมาจากงานอื่นใด

 

  • ในคดีแพ่งที่แบ่งทรัพย์กัน มีภาพอยู่หลายร้อยภาพที่คู่ความไม่สามารถระบุได้ว่า วาดในช่วงปีไหน หากวาดก่อนที่ป้าอ๊อดจะมาอยู่กินกับลุงหวัน ภาพก็จะตกเป็นของทายาท ทนายความทั้ง 2 ฝ่ายเสนอให้ตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ศาลท่านให้ความเห็นว่า ถ้าส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ มีค่าใช้จ่ายสูง และอาจใช้เวลานานหลายปีกว่าจะพิสูจน์  ท่านแนะนำให้คู่ความใช้วิธีคาดคะเนเอา  ซึ่งในวันที่แบ่งภาพวาดผลงานศิลปะใช้วิธีคาดคะเน แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย จึงจบลงด้วยดี 

 

  • ภาพที่อยู่ในบัญชีทรัพย์ระหว่างฟ้องร้องกัน มีการทำบัญชีทรัพย์อย่างถูกต้อง ผ่านการพิจารณาของศาล ภาพดังกล่าว เป็นของจริงแน่นอน แต่ภาพที่นอกเหนือจากบัญชีทรัพย์  จะทราบได้อย่างไรภาพไหนปลอม ภาพไหนจริง

 

  • ภาพส่วนใหญ่จะไม่มีลายเซ็นลุงหวัน น้อยมากที่มีลายเซ็น โดยเฉพาะภาพวาดด้วยกระดาศบัสเวิร์ค (ฝีแปรงแบบฉับพลัน)

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

 

ทั้งหมดนี้ผ่านกระบวนการของเหตุผลในการตั้งคำถามต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจไม่มีความกระจ่างแจ้งในเรื่องภาพจริง-ภาพปลอม 100% เพราะเจ้าของผลงานไม่อยู่ยืนยันแล้ว คงเป็นไปตามสภาวะทางเหตุผลและของผู้ที่ยังอยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังว่าจะจัดการกับ “ผลงานศิลปะ” ของถวัลย์ ดัชนีอย่างไร ด้วยความถูกต้อง ชอบธรรม ยุติธรรมต่อผู้ที่ยังอยู่และเป็นไปโดยเคารพผู้วายชนม์อย่างที่สุด

 

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ป้าอ๊อดรักษาไว้คือหลักฐานสำคัญหนึ่งเดียวที่ได้มีการระบุไว้ในบันทึก “คิดถึง ถวัลย์ ดัชนี” ในโอกาสจัดแสดงผลงานที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 21 มกราคม – 25 เมษายน 2566

 

ป้าอ๊อดเขียนเล่าในบันทึกเล่มนี้ว่า

 

“ช่วงย้ายมาอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน มีครั้งหนึ่งลุงหวันขึ้นไปเชียงรายคนเดียว พอกลับมากรุงเทพฯ แกก็ยื่นกระดาษให้ป้าแล้วบอกว่า “อ๊อดเก็บไว้นะ วันหนึ่งมันจะมีประโยชน์กับอ๊อด”

 

มันคือใบหย่า ปรากฎว่าแกเพิ่งไปจดทะเบียนหย่ากับภรรยาเก่า (มากาเร็ต ฟันเดอร์ฮุค) หลังแยกกันอยู่มาสักพัก ป้าก็เก็บไว้ แล้วมันก็มีประโยชน์จริงๆ ในวันที่ลุงหวันจากไป ถ้าไม่มีใบหย่าป้าก็คงไม่สามารถรักษาบ้านหลังนี้เอาไว้ได้”

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

 

“เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ด้วยความที่แกเคยจด แล้วก็หย่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ลุงหวันเลยมองว่าการเป็นคู่ชีวิตนั้นไม่ได้สำคัญที่กระดาษแผ่นเดียว”

 

ทรัพย์สินมากมาย จะทำอย่างไรต่อไป

ทรัพย์สินในคดีแพ่งดังกล่าวมีการแบ่งกันชัดเจนตามกฎหมายตามคำพิพากษาของศาลแล้ว เป็นของป้าอ๊อดแต่เพียงผู้เดียวโดยสมบูรณ์ หากป้าอ๊อดตายไป ทายาทลุงหวันไม่มีสิทธิมายุ่งเกี่ยว ทรัพย์สินทั้งหมดป้าอ๊อดได้ทำพินัยกรรมไว้แล้ว ป้าอ๊อดจะขายทรัพย์สินทั้งหมดและนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินมอบให้การกุศลทั้งหมด เช่น สภากาชาติไทย โรงพยาบาลต่างๆ ตามปณิธาน ของป้าอ๊อดกับลุงหวันร่วมกัน

 

“ณ ปัจจุบัน ป้าอ๊อด ยังหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้ผลงานศิลปะของลุงหวันอยู่ มันควรไปอยู่ในที่ๆเหมาะสม และทุกสิ่งทุกอย่างที่ลุงหวันกับป้าอ๊อดร่วมกันสร้างกันมาด้วยความรักความผูกพัน จะคืนให้แก่แผ่นดิน” 

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

หนังสือบันทึกความทรงจำ "คิดถึด ถวัลย์ ดัชนี"

จดหมายลายมือถวัลย์ ดัชนีเ เขียนถึงป้าอ๊อด

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"

ถวัลย์ ดัชนี 

เกิดวันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2482 จังหวัดเชียงราย

ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2544

ศิลปินคนแรกของอาเซียนที่ได้รับรางวัล Fukuoka Asian Culture จากประเทศญี่ปุ่น 

“นิทรรศการไตรสูรย์” ของ ถวัลย์ ดัชนี เป็นนิทรรศการที่ถูกจัดเป็นสุดยอดของตำนานในวงการศิลปร่วมสมัย

ถวัลย์ไม่เคยแสดงงานเดี่ยวในเมืองไทยมาเป็นเวลานาน จึงเป็นที่ตั้งตารอของผู้คนจำนวนมากมาย ทำให้มีสถิติผู้เข้าชมร่วม 3 หมื่นคนตลอดการแสดง บางวันมีคนมากกว่าพันคนในห้องแสดงงานทั้ง 3 ชั้นของหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ในครั้งนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดนิทรรศการที่ใช้ชื่อว่า “ไตรสูรย์” เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2547 โดยนิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม 2547 – 11 มกราคม 2548 เป็นการรวบรวมผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ตลอดระยะเวลา 3 ปี

ไตรสูรย์หมายความถึงพระอาทิตย์ 3 ดวง สื่อนัยยะถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์แห่ง 3 ยุคสมัยที่เป็นบ่อเกิดและเบ้าหลอมแห่งอารยะธรรมของมนุษยชาติ หรืออีกนัยหนึ่งสื่อแสดงถึง อดีต ปัจจุบัน อนาคต 

 

ไขความลับใต้ผืนผ้าใบ “ถวัลย์ ดัชนี” ในอาณาจักร \"บ้านรั้วเขาควาย\"