‘ยอมรับกันในฐานะมนุษย์' ข้อเรียกร้องจาก ‘ฮันนิ’ วงนิวจีน กรณีถูกบูลลี่
วงการ K-pop ยังออกจากกระแส ‘บูลลี่’ ไม่ได้ตลอดทั้งอาทิตย์ เพราะเมื่อวานนี้ ฮันนิ สมาชิกวงนิวจีนได้ตัดสินใจแถลงต่อ สมัชชาแห่งชาติของเกาหลี ถึงกรณีการถูกบูลลี่ในที่ทำงาน โดยถือเป็นศิลปินคนแรกและกรณีสมาชิกชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนเกาหลี ที่กล้าทำเช่นนี้!
ฮันนิ (Hanni) วงนิวจีน (NewJeans) ตัดสินใจออกมาเผชิญกับแรงกดดันจากบริษัทแม่อย่าง HYBE ยักษ์ใหญ่ค่ายไอดอลชื่อดังอย่าง BTS , Seventeen , LE SSERAFIM เมื่อวานนี้ผ่านการแถลงต่อสมัชชาแห่งชาติของเกาหลีใต้ ในประเด็นการถูกล่วงละเมิดและถูกบูลลี่ในที่ทำงาน
ฮันนิ ไอดอลเชื้อสายเวียดนาม-ออสเตรเลีย ได้เคยออกมาเปิดเผยรายละเอียดของการถูกบูลลี่ในที่ทำงานของเธอในไลฟ์สดที่เธอและสมาชิกคนอื่นในวง แอบไลฟ์กันโดยไม่ให้บริษัททราบในปลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฮันนิเปิดเผยว่าเธอถูกบูลลี่ในที่ทำงาน
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ฮันนิได้เล่าย้อนเหตุการณ์ให้กับสมัชชาแรงงานของเกาหลีใต้ฟังอีกครั้ง โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า
“ พวกเรามีชั้นสำหรับแต่งหน้าทำผมในตึก เวลานั้นฉันกำลังรออยู่ที่โถงเพราะว่าทำผมแต่งหน้าเรียบร้อยแล้วเป็นคนแรก ฉันทักทายวงหนึ่งก่อนหน้านี้ และหลังจากที่พวกเขากลับมา 5-10 นาทีหลังจากนั้นพร้อมกับผู้จัดการ ผู้จัดการได้สบตากับฉัน และบอกกับวงของเธอว่า ‘อย่าสนใจเธอทำเหมือนว่าไม่เห็นเธอ’ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอทุกพูดแบบนั้นในที่ทำงาน”
ฮันนิกล่าวว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์เดียว เธอเคยเผชิญเรื่องราวแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกที่เดบิวต์ คนที่อาวุโสกว่าไม่เคยรับการทักทายจากเธอเลย ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นวัฒนธรรมเกาหลีที่จะทำแบบนั้น แต่ว่าการไม่รับทักทาย ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สุภาพในฐานะมนุษย์ด้วยกัน นอกจากนี้เธอยังรู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่ดีในบริษัท แต่ก็คิดเพียงว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัวมาตลอด จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเข้าใจว่าไม่ใช่อย่างที่คิด
- บริษัทบอกว่าเธอไม่มีหลักฐาน แม้ว่าภาพจาก CCTV จะมีความยาวแค่ 8 วินาที
สมัชชาถามเธอว่าได้มีการแจ้งต่อไปยัง CEO แล้วแต่ทาง CEO กล่าวว่าหากไม่มีหลักฐานก็ต้องทนไปใช่หรือไม่ ซึ่งฮันนิตอบรับว่าใช่จากคำถามดังกล่าว โดยเล่าต่อว่าพวกเขาบอกว่ามีแค่ภาพที่ทักทายกันแต่ไม่มีภาพที่ทางฮันนิเล่าให้ฟัง เธอจึงขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาพูดเพราะคลิปที่มีนั้นมีความยาวเพียง 8 วินาทีและแสดงถึงตอนที่ทักทายกัน แต่เหตุการณ์จริงเกิดขึ้นราว 50 นาทีหลังจากนั้นแต่ไม่ได้มีการบันทึกภาพดังกล่าว
หลังจากนั้นฮันนิได้มีการประชุมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย และสอบถามว่าทำไมถึงไม่มีภาพที่เกิดขึ้น เธอกล่าวว่าในการประชุมผู้เข้าร่วมได้เปลี่ยนเหตุผลตลอด และสุดท้ายก็บอกว่าได้ลบวิดิโอนั้นไปแล้ว ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย ด้วยเพราะเธอเป็นชาวต่างชาติ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ 100% เธอจึงบันทึกเสียงทุกครั้งที่ประชุม จึงมีหลักฐานชัดเจนว่าพวกเขาโกหก
อย่างไรก็ตาม ฮันนิได้มีการเรียกร้องให้ CEO นัดพบระหว่างเธอกับผู้จัดการคนดังกล่าวเพื่อเคลียร์ความเข้าใจผิดอีกด้วย
- ‘ยอมรับในฐานะมนุษย์’
ในช่วงท้ายฮันนิได้กล่าวว่า
“ แม้จะรู้ดีว่ากฎหมายไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างในโลกนี้ได้ แต่ถ้าเรายอมรับกันในฐานะมนุษย์อย่างน้อย ปัญหาการกลั่นแกล้งในที่ทำงานก็อาจจะไม่เกิดขึ้น”
โดยเธอรู้สึกว่าทำไมแฟนคลับเธอต้องออกมาขอโทษกับเรื่องดังกล่าว แต่คนที่ควรที่จะต้องออกมาขอโทษจริงๆ คือคนที่ทำผิดซึ่งหลบเลี่ยงการมาเผชิญหน้าในวันนี้
- ศิลปินเกาหลียังคงถูกบูลลี่อย่างต่อเนื่องทั้งจากที่ทำงานและสาธารณชน
กรณีของฮันนิไม่ใช่กรณีแรกในสังคมเกาหลี การถูกบูลลี่ของศิลปินเกาหลีเกิดขึ้นบ่อย ไม่ว่าจะเป็น การกดดันจากต้นสังกัด จนถึงขั้นควบคุมชีวิตส่วนตัวอย่างเข้มงวดถ้าศิลปินไม่ทำตามกฎบริษัท
การกลั่นแกล้งภายในวงเดียวกัน เพราะการแข่งขันและความแตกต่างทางค่านิยมและความสามารถ หรือการได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมจากต้นสังกัด
การถูกวิจารณ์จากสาธารณะ โดยเฉพาะในพื้นที่โซเชียลมีเดีย ซึ่งศิลปินต้องแบกรับกับการบูลลี่ในลักษณะนี้ค่อนข้างบน เนื่องจากความคาดหวังที่เกินกว่าความเป็นจริง และการเกาะติดศิลปินจนไม่มีพื้นที่ส่วนตัว และหลายคนต้องเผชิญความกดดันและความเครียด
การเหยียดเชื้อชาติหรือความแตกต่าง โดยเฉพาะศิลปินชาวต่างชาติ ที่ไม่ค่อยถูกยอมรับในวงการมากนักทั้งจากสาธารณะชน และในที่ทำงาน
กรณีดังที่ศิลปินเกาหลีต้องผ่านประสบการณ์ร้ายแรงของการถูกบูลลี่ อาทิ
Sulli วง F(x)
กรณีโด่งดังที่สุดที่เธอถูกบูลลี่อย่างหนักจากการแสดงตัวตนและความคิดเห็นที่เป็นตัวของตัวเอง ขัดต่อภาพลักษณ์ที่ทางต้นสังกัดสร้างขึ้น และภาพลักษณ์ที่คนเกาหลีอยากให้เป็น ส่งผลต่อสุขภาพจิตของเธอย่างร้ายแรง จนท้ายสุดเธอเลือกจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย
Goo Hara วง (KARA)
กูฮารา (Goo Hara) อดีตสมาชิกวง KARA เป็นอีกกรณีที่ถูกวิจารณ์และบูลลี่ออนไลน์อย่างหนัก เนื่องจากปัญหาส่วนตัวและการถูกข่มเหงจากอดีตแฟนหนุ่ม หลังจากมีปัญหาด้านกฎหมายกับแฟนเก่า เธอถูกบูลลี่ออนไลน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการถูกข่มขู่ด้วยคลิปวิดีโอส่วนตัว แม้เธอจะเคยออกมาพูดถึงการถูกบูลลี่และความยากลำบากในการรับมือ แต่ท้ายที่สุดเธอก็เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปี 2019 ไม่กี่เดือนหลังจากซอลลี่
Taeyeon (Girls’ Generation)
แทยอน (Taeyeon) หัวหน้าวง Girls’ Generation เคยเปิดเผยในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าเธอประสบปัญหากับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เธอถูกโจมตีจากความเห็นในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและความสามารถในการเป็นผู้นำของวง ในปี 2020 แทยอนออกมายอมรับว่าเธอได้รับการรักษาสำหรับภาวะซึมเศร้าและขอบคุณแฟน ๆ ที่สนับสนุนเธอ ในการเปิดเผยนี้ แทยอนยังเตือนให้สาธารณชนระมัดระวังเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของศิลปิน
HyunA
ฮยอนอา (HyunA) ศิลปินเดี่ยวชื่อดัง อดีตสมาชิกวง 4Minute เคยพูดถึงการถูกบูลลี่ในช่วงแรกของอาชีพการเป็นไอดอล เธอเปิดเผยว่าถูกเพื่อนร่วมงานและคนรอบตัวกลั่นแกล้งเนื่องจากความสามารถและความนิยมที่โดดเด่น ซึ่งทำให้เธอต้องต่อสู้กับความเครียดและความกดดันในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัด เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เธอแข็งแกร่งและเป็นแรงผลักดันในการทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
Jimin (AOA) และ Mina (AOA)
กรณีของ Jimin และ Mina จากวง AOA เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการบูลลี่ภายในวงการบันเทิง ในปี 2020 Mina ออกมาเปิดเผยว่าเธอถูก Jimin บูลลี่มาตลอดระยะเวลาหลายปีที่อยู่ในวง AOA ส่งผลให้เธอประสบปัญหาทางจิตใจและเคยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ Jimin ได้ออกมาขอโทษและประกาศถอนตัวออกจากวงการบันเทิง ซึ่งเหตุการณ์นี้จุดประกายการถกเถียงถึงปัญหาการบูลลี่ภายในวงการบันเทิงเกาหลีใต้
และท้ายที่สุด Seunghan วง RIIZE ซึ่งถูกกลุ่มที่เรียกตนเองว่าแฟนคลับ ส่งพวงหรีดขับไล่เขาไปวางไว้หน้าบริษัทเพื่อขับออกจากวง จนสุดท้ายซึงฮันประกาศออกจากวง จนเกิดกระแสเรียกร้องอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ ฮันนิ กล้าออกมายืนหยัดเพื่อตนเองถึงสถานการณ์การถูกบูลลี่ดังกล่าว.