จะเกิดอะไร? ทรัมป์จ่อตั้ง ‘โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี จูเนียร์’ เป็นรมว.สาธารณสุข
จับตามอง! กับการจ่อตั้ง ‘โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์’ ผู้ที่มีแนวคิดแหวก แหกกฎ FDA ไปหลายข้อ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการของมนุษย์ ( Department of Health and Human Services ) ว่าจะส่งผลต่อแนวคิดและทิศทางวงการสาธารณสุขโลกอย่างไร
น่าจับตามอง! กับการจ่อตั้ง ‘โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์’ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการของมนุษย์ ( Department of Health and Human Services ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทั้งในเรื่องยา วัคซีน และอาหาร จนถึงวิจัยทางการแพทย์ ฯลฯ โดยครอบคลุมการประกันสุขภาพสำหรับผู้คนกว่า 140 ล้านคน รวมถึงผู้ยากไร้ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และผู้ทุพพลภาพ ในปีงบประมาณ 2024 หน่วยงานนี้มีงบประมาณกว่า 3.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 22.8% ของงบประมาณรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ซึ่งหลายฝ่ายค่อนข้างกังวลและจับตาว่านโยบายของ เคนเนดี จูเนียร์จะออกมาอย่างไร เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่มีประสบการณ์ด้านสาธารณสุขในระดับชาติมาก่อน ภายใต้การประกาศของทรัมป์ที่จะ ‘ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และสุขภาพดีอีกครั้ง!’
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เคนเนดีมีมุมมองต่ออุตสาหกรรมและบริษัทยาว่ามีการบิดเบือนข้อมูลในประเด็นสุขภาพของสาธารณะ และเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้ ‘วัคซีน’ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จนทำให้เคนเนดีกลายเป็นบุคคลที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับหลายฝ่ายในวงการสาธารณสุข อาทิ เคนเนดีแสดงจุดยืนชัดเจนต่อการฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก โดยเคยบอกกับ FOX News ว่าการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนั้นเป็นสาเหตุของออทิสติก แม้ว่าความเชื่อนี้จะถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง แต่เคนเนดียังคงดำเนินการต่อต้านต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเคนเนดีปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ต่อต้านวัคซีน แต่อยากให้มีการทดสอบวัคซีนให้เข้มงวดเพิ่มขึ้นก่อนใช้เท่านั้น!
นอกจากนี้ การประกาศสนับสนุน เคนเนดี อย่างเต็มที่ของ ทรัมป์ เป็นที่จับตาว่าเขาจะเข้ามาจัดระเบียบใหม่ให้แก่หน่วยงานใหญ่ทางการแพทย์ของสหรัฐอย่าง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สถานบันสุขภาพแห่งชาติ (NH) โดยเฉพาะกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อย่างไร
มีการคาดการณ์ว่า FDA จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น เข้มงวดกับการใส่สีและวัตถุกันเสียในอาหาร และสำหรับบริษัทยา การห้ามโฆษณาทางโทรทัศน์ นอกจากนี้ยังเสนอให้ยกเลิกค่าธรรมเนียมที่บริษัทยาจ่ายให้ FDA เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ เคนเนดีถึงขั้นเปรยว่าจะมีการไล่พนักงาน FDA ซึ่งเป็นส่วนของระบบทุจริตออกไป และมองว่า FDA นั้นเป็นอุปสรรคต่อสุขภาพของประชาชน
รวมไปถึงประเด็นสำคัญคือเขามีความคิดขัดแย้งต่อผลิตภัณฑ์ที่ FDA ประกาศเตือนในหลายหัวข้อ ซึ่งจะกระทบต่อการใช้ยา งานวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมไปถึงยาที่ใช้ในระบบสาธารณสุขโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่ง FDA มีบทบาทสำคัญต่อยาในประเทศไทยในทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านมาตรฐานการผลิต การอนุมัติ และการวิจัยยา แม้ว่า FDA จะไม่ใช่หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย แต่การอนุมัติจาก FDA มักถือเป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ และส่งผลให้ประเทศไทยนำมาตรฐานบางอย่างจาก FDA มาใช้งาน
- สิ่งที่เคนเนดีอยากได้ VS FDA ต่อต้าน
เคนเนดีแสดงจุดยืนต่อต้านแนวคิดของ FDA อย่างสม่ำเสมอ โดยโจมตีไปที่ยาหลายตัวที่ FDA รับรองอย่างเช่นยาลดน้ำหนักของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง โดยกล่าวว่า
"แทนที่จะปรับปรุงระบบอาหารของเราและแก้ไขวิกฤติการมีน้ำหนักเกินที่ต้นเหตุ ผู้เขียนมุ่งเน้นไปที่ยาที่อาจบรรเทาอาการและทำให้ผู้บริหารของบริษัทยาขนาดใหญ่มีความสุข”
ในโพสต์ของนายเคนเนดีหลายครั้งได้มีการสนับสนุนเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ นมดิบ เปปไทด์ การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง ไฮดรอกซีคลอโรควิน คีเลชั่น วิตามิน อาหารที่สะอาด แสงแดดและโภชนาการ ซึ่งเขามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลดีต่อการส่งเสริมสุขภาพมนุษย์ซึ่งไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ อย่างไรก็ตามหากอ้างอิงจาก FDA จะพบว่า ทาง FDA ได้ส่งจดหมายเตือนและมีการเตือนการบริโภคและใช้สิ่งเหล่านี้ตลอด ยกตัวอย่างเช่น
นมดิบ การบริโภคนมดิบมีความเสี่ยงมาโดยตลอดตามคำเตือนของ FDA และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนไม่ให้บริโภคนมดิบมาเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ จากแบคทีเรีย เช่น E. coli ซึ่งอาจทำให้ไตล้มเหลวและเสียชีวิตได้
ไฮดรอกซีคลอโรควิน ในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ COVID-19 FDA ได้อนุมัติการใช้ไฮดรอกซีคลอโรควินในกรณีฉุกเฉินตามคำขอของประธานาธิบดีทรัมป์ จากรายงานที่ระบุถึงประสิทธิภาพของยาในการรักษา COVID-19 อย่างไรก็ตาม การอนุมัติถูกยกเลิกในเดือนมิถุนายน หลังการศึกษาแสดงถึงความไม่มีประสิทธิภาพของยาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
คีเลชั่น โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ ได้สนับสนุนการบำบัดด้วยคีเลชั่น (ใช้เพื่อกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกายหลังการสัมผัสในระดับรุนแรง) ว่าเป็นวิธีรักษาออทิสติก แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน เขาเคยอ้างว่าบางกรณีของออทิสติกอาจเกิดจากพิษของสารปรอทในวัคซีน FDA เคยส่งจดหมายแจ้งเตือนในปี 2010 ถึงองค์กรที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์คีเลชั่นที่ไม่ได้รับอนุมัติสำหรับภาวะเช่นออทิสติก
เซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์ แม้ว่าการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดจะแสดงศักยภาพในการรักษาเบาหวานบางชนิดและจอประสาทตาเสื่อม แต่ก็มีคลินิกที่ไม่ได้รับการรับรอง พยายามหาประโยชน์จากความสนใจนี้ด้วยการเสนอการรักษา ซึ่ง FDA ยังไม่รับรองเพราะเป็นอันตราย ในปี 2017 ดร. สก็อตต์ กอตต์ลีบ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็นผู้นำ FDA ได้เตือนถึงการใช้สเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดว่า “ไม่ได้รับการพิสูจน์และในบางกรณีก็เป็นอันตราย”
- โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ คือใคร
สำหรับประวัติของ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ เขาเป็นบุตรชายของวุฒิสมาชิกโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี และเป็นหลานชายของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี เขาเป็นทนายความด้านสิ่งแวดล้อม นักเขียน และนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักจากการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำ แม่น้ำ และการต่อสู้กับมลพิษ
ในปี 2023 เคนเนดีได้ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะผู้สมัครอิสระ โดยเริ่มต้นการลงสมัครในพรรคเดโมแครตก่อนจะเปลี่ยนเป็นผู้สมัครอิสระ ต่อมาได้เป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพของโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง